คุมได้แล้วไฟป่า “เขาลอย” เร่งทำแนวกันไฟให้อยู่วงจำกัด

ไฟป่าเขาลอย

นครราชสีมา 11 ม.ค. – คุมได้แล้วไฟไหม้ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” เร่งทำแนวกันไฟให้อยู่วงจำกัด เสริมกำลังพลเข้าช่วยอีก 150 นาย


จากกรณีช่วงบ่ายวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ 3 นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านโศกลึกพัฒนา หมู่ 9 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเข้าพื้นที่เพื่อควบคุมไฟป่า แต่เนื่องจากพื้นที่มีความลาดชัน และหินลอยอาจลื่นไถลตกเขาได้ ทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างยากลำบาก

ล่าสุด นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายกิตติ เตียวตระกูลวัฒน ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ถึงสถานการณ์ไฟป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ในท้องที่ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยหลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ทิ้งน้ำดับไฟเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 ม.ค.) แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นยังไม่สามารถเดินเข้าไปดับไฟที่ไหม้ขอนไม้ได้ ประกอบกับลมพัดแรงและมีไม้ไผ่แห้งตายเป็นเชื้อเพลิง ส่งผลให้ไฟประทุขึ้นอีก ลุกลามไปอีกต่อจากแนวเดิมประมาณ 300 เมตร โดยไฟไหม้ป่าครั้งนี้สร้างความเสียหายกว่า 1,700 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 25,000 ไร่ ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 5 กิโลเมตร


สำหรับการปฏิบัติการวันนี้ (11 ม.ค.) ได้การสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บินทิ้งน้ำดับไฟป่า 2 ลำ คือ เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์บินทิ้งน้ำดับไฟบริเวณด้านหน้าผาสูงชัน เพื่อป้องกันการเกิดสะเก็ดไฟหล่นมาด้านล่าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด คือ ชุดทำแนวกันไฟ โดยใช้เครื่องเป่าลม ไม้กวาด ถังฉีดน้ำ (Rako) และชุดดับไฟเก็บกวาดไฟที่ไหม้ขอนไม้ โดยใช้จอบ ถังฉีดน้ำ ทำให้ไฟไม่ขยายตัวออกไปอีก โดยยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องดำเนินการอีก 100 เมตร เพื่อควบคุมแนวไฟไหม้ให้อยู่ในวงจำกัด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตามดับไฟที่ไหม้บริเวณขอนไม้ ซึ่งมีขนาดใหญ่และมีจำนวนมาก โดยจะมีทหารมาสนับสนุนการปฏิบัติงานเพิ่มเติมอีก 150 นาย

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าเขาใหญ่ของเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 โดยหลังจากบินทิ้งน้ำดับไฟในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจำนวน 10 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำกว่า 30,000 ลิตร สามารถควบคุมไฟป่าได้เกือบทั้งหมด

ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าส่วนหน้า ต.พญาเย็น ได้มอบหมายให้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินทิ้งน้ำในพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมป้องกันไฟที้อาจกลับมาปะทุลุกไหม้อีกรอบ โดยเฮลิคอปเตอร์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จะเตรียมพร้อมในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงาน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนเพื่อเป็นข้อมูลในการควบคุมไฟป่าครั้งนี้ด้วย รวมทั้งได้มีแผนให้หน่วยงานที่ร่วมการปฏิบัติภารกิจฯ ร่วมเฝ้าระวังสถานการณ์ในคืนนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมการลุกไหม้ของไฟป่าได้ทั้งหมดของพื้นที่. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]