จาการ์ตา 28 เม.ย. – อินโดนีเซียเริ่มระงับส่งออกน้ำมันปาล์มและปาล์มน้ำมันอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่วันนี้ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมันพืชในประเทศที่ทำให้ราคาน้ำมันพืชพุ่งสูงขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มเพียงอย่างเดียว
นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานกิจการเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เผยเมื่อช่วงค่ำวันพุธว่า อินโดนีเซีย จะระงับการส่งออกผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน ซึ่งรวมถึงปาล์มดิบด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ระบุว่า รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการจัดการปริมาณน้ำมันพืชให้เพียงพอต่อประชากร 270 ล้านคนของอินโดนีเซียเป็นลำดับแรก ในฐานะที่อินโดนีเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก การประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหารถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้วางแผนกลับมาส่งออกน้ำมันปาล์มอีกครั้งเมื่อราคาน้ำมันปาล์มในประเทศลดลงเหลือลิตรละ 14,000 รูเปียห์ (33 บาท) โดยที่ในขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศพุ่งขึ้นไปที่ลิตรละ 26,000 รูเปียห์ (62 บาท) ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มคิดเป็นร้อยละ 60 ของปริมาณทั้งหมดในตลาดโลก โดยที่มีอินเดีย จีน สหภาพยุโรป หรืออียู และปากีสถานเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่จากอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ปัญหาขาดแคลนน้ำมันปาล์มในอินโดนีเซียที่เกิดขึ้นมายาวนานหลายเดือนเป็นผลมาจากกฎหมายที่ไม่รัดกุมและความไม่เต็มใจของผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม ซึ่งไม่อยากนำสินค้าวางขายในประเทศและเน้นการส่งออกไปขายต่างประเทศแทน เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันพืชในตลาดต่างประเทศพุ่งสูงขึ้นจนทำให้ผู้ผลิตได้กำไรมากกว่า.-สำนักข่าวไทย