กระบะลอบขนแรงงานต่างด้าวชนท้ายรถพ่วงดับ 2 เจ็บ 12

สระแก้ว 23 เม.ย. – เจ้าหน้าที่สระแก้วจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว 2 กลุ่ม รวม 37 คน ส่วนสองสามีภรรยาขับกระบะลักลอบขน 12 แรงงานต่างด้าว พุ่งชนท้ายรถพ่วง เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 12 คน


เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. บนถนน 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน กม.15-16 บ้านใหม่ไพรวัลย์ ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู สภาพด้านหน้าพังยับ เนื่องจากชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ

ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.วิมุตา อายุ 35 ปี ภรรยานายลิขิต คนขับกระบะ และเด็กชายทารกชาวกัมพูชา อายุประมาณ 1 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 12 คน นอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ผู้บาดเจ็บเป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 11 คน ส่วนอีก 1 คนเป็นคนขับรถกระบะคือ นายลิขิต อายุ 30 ปี


นายลิขิต ชาว อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว คนขับกระบะ ซึ่งได้รับบาดเจ็บซี่โครงด้านซ้ายหัก ให้การกับตำรวจว่า ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มเครือข่ายให้ไปรับแรงงานชาวกัมพูชา 12 คน จากบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.คลองหาด กับรอยต่อ อ.อรัญประเทศ เพื่อไปส่งที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยตนเองมากับภรรยา เมื่อไปส่งแรงงานถึงจุดหมายจึงจะได้รับค่าตอบแทนเป็นรายหัวจากชาวกัมพูชา แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน

ด้านนายคเชนธ์ ขุนตาล คนขับรถพ่วง เปิดเผยว่า ตนเองบรรทุกแป้งมาจาก จ.ศรีสะเกษ เพื่อส่งโรงงานใน อ.แหลงฉบัง จ.ชลบุรี จู่ๆ ได้ยินเสียงดังและรู้สึกเหมือนรถถูกชนท้าย จึงจอดข้างทางและลงมาดู พบว่า รถของตนถูกชนท้ายจริงๆ และมีผู้เสียชีวิตและเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดไปรักษาที่ รพ.สระแก้ว

อัดเป็นปลากระป๋อง ลอบขนแรงงานกัมพูชาเข้าไทย
ตำรวจชุดปฏิบัตการพิเศษ กองกับกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสระแก้ว กระจายกำลังตรวจสอบพื้นที่จุดล่อแหลมที่มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 2 จุด จนสามารถจับกุมเครือข่ายขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าประเทศไทยได้รวม 37 คน พร้อมผู้นำพาคนไทยอีก 3 คน และตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ขนแรงงานอีก 3 คน


จุดแรกบริเวณหลังร้านสะดวกซื้อวงเวียนคลองหาด จับกุมนายประเวช อายุ 43 ปี ชาว อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี คนขับกระบะ 4 ประตู สีดำ ที่มีผ้าใบสีดำคลุมหลังรถ แต่เมื่อเปิดผ้าใบขึ้นตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ถึงกับต้องตะลึง เพราะท้ายกระบะรถอัดแรงงานต่างด้าวมาเต็มคันรถ และภายในรถก็เช่นเดียวกัน แรงงานอัดแน่นเป็นปลากระป๋องรวม 20 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 2 คน นายประเวชสารภาพได้รับการว่าจ้างขนแรงงานงานต่างด้าวทั้งหมดจากนายนายตะเลท ชาวกัมพูชา

ส่วนจุดที่ 2 บริเวณหน้าวัดไทยเจริญธรรม ต.คลองหาด สามารถจับกุม นางจีริสุดา อายุ 49 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายถวิล อายุ 55 ปี พร้อมด้วยแรงงานชาวกัมพูชาอีก 17 คน พร้อมรถยนต์ของกลางอีก 2 คัน

ตำรวจแจ้งข้อหานายประเวช, นายเชิท ซาท, นางจีริสุดา และนายถวิล ร่วมกันช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ส่วนแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุม ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ