อยุธยา ซิตี้ปาร์ค 23 เม.ย.- “อนุทิน” ลั่น กวาด 5 ที่นั่งในพระนครศรีอยุธยา ตั้งเป้าได้ ส.ส.ทุกเขตที่ส่งลงสมัคร – พร้อมเสนอหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ย้ำผลงาน 4 ปี พูดแล้วทำ เป็นจุดขายให้ประชาชน
09.30 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 65 ณ ห้องประชุมชั้น 2 เดอะฮอล์ อยุธยา ซิตี้ พาร์ค อ.พระนครศรีอยุธยา ระบุว่าวันนี้เป็นการประชุมสามัญประจำปีของพรรค เพราะเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และที่เลือกจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเนื่องจากเป็นจังหวัดที่สำคัญ ที่จะประสานงานกับสมาชิกผู้สมัครในภาคกลาง และที่สำคัญจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไว้วางใจให้มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทยถึง 2 คน จากที่ไม่เคยมี คือ นายเกื้อกูล ด่านวิชัยจิตร เขต 1 และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เขต 3 ซึ่งเป็นส.ส.ที่ใกล้ชิดกับประชาชน อีกทั้งในวันนี้เราจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือพิมพฤดา ตันจรารักษ์ หรือ น้องพิมพ์ ซึ่งเป็นหลานท่านของนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมีความตั้งใจที่จะรับใช้ประชาชน และประสงค์จะขับเคลื่อน เศรษฐกิจท่องเที่ยวอุตสาหกรรม ปากท้องของประชาชนให้อยู่ดีกินดีเพิ่มรายได้
ทั้งนี้เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยครั้งหน้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะต้องได้ ส.ส.ทั้ง 5 เขต และ ส.ส. 5 คน คือเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า และครั้งหน้าเราจะลงพื้นที่อย่างสุดความสามารถ จะสร้างนโยบายให้ประชาชนเชื่อใจ ไว้ใจ ตั้งเป้าอยากได้ ส.ส.อยุธยาฯยกจังหวัด เข้ามาช่วยทำงาน อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะต้องเริ่มฟื้นฟูสร้างให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพของประชาชน ที่เราได้รับความร่วมมือในทุกๆ มิติอย่างก้าวหน้า เป็นประเทศที่แข็งแกร่งในภูมิภาค และพึ่งพาตนเองได้ เป็นประเทศที่ยืนบนขาของตัวเองและบนเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ขณะที่ในตอนนี้ไม่ได้คั้งเป้าว่าจะได้ส.ส.เท่าไหร่ แต่อยากได้ ส.ส.ทุกเขตที่เราส่งไป และถ้าหากเกิน 100 ก็ต้องเกิน เพราะสิ่งที่ภูมิใจไทยให้ความมั่นใจ คือต้องส่งผู้สมัครที่ทุ่มเท เสียสละมีคุณภาพ รับใช้ประชาชน ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ สุจริต เพราะนี่ถือเป็น package รวม คนไม่ดีเราไม่ส่ง ต่อให้มีความแข็งแกร่งในพื้นที่ขนาดไหนก็ตาม เพราะเราไม่ต้องการ เข้าไปกอบโกยผลประโยชน์
ทั้งนี้มั่นใจว่า 4 ปีที่ผ่านมาของพรรคภูมิใจไทย เราสร้างรากฐานความไว้วางใจความน่าเชื่อถือให้กับประชาชน และคนทั่วไปที่ติดตามผลงานของพรรคได้อย่างชัดเจน ว่าสิ่งที่พูดไปแล้วเราทำได้ทุกอย่าง นั้นคือ “พูดแล้วทำ” และจากนี้ก็จะทำให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พร้อมย้ำว่าเรามีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งแล้ว จากนี้จะทำอะไรต่อไป ก็จะไม่มีอุปสรรค และจะตั้งใจทำงาน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้อยู่ดีกินดี
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีกี่คน นายอนุทิน กล่าวว่า เสนอเพียงคนเดียว พรรคภูมิใจไทยจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งใครก็ได้ที่เป็นหัวหน้าพรรคก็จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่พรรคยึดถือ และเรามีความมั่นคง เราแสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่าเรามีความเป็นปึกแผ่นมาตั้งแต่ที่เราเป็นพรรคเล็กๆ จนมาถึงปัจจุบัน เราเน้นคุณภาพ เพราะความเป็นปึกแผ่น ความสามัคคี จะทำให้เราประสบความสำเร็จ เราไม่แตกแยกยอมรับว่ามีความเห็นต่างทางความคิดเยอะ แต่ทุกอย่างจบในห้องประชุม และยึดถือเคารพกติกา ว่าพรรคภูมิใจไทยจะไปไหนต้องไปในทิศทางเดียวกัน เราแสดงให้เห็นทุกอย่างทั้งการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ประชาชน บางครั้งเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต้องแลกกับผลทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้ภูมิใจไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่หากเป็นประโยชน์ของประชาชนเราจะทำ ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเอง เราทำในทุกสิ่งที่ถูกต้องและยึดผลของการกระทำ .-สำนักข่าวไทย