ฝากขัง “บุ๊ค ธนายุทธ” คดีครอบครองวัตถุระเบิด

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – ตำรวจทราบตัวผู้ร่วมก่อเหตุปาระเบิดปิงปองหน้า ร.1 ทม.รอ. เพิ่มเติมอีก 1 คน ขณะที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ ฝากขัง “บุ๊ค ธนายุทธ” คดีครอบครองวัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักย่านคลองเตย


เหตุปาระเบิดปิงปองหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) ซึ่งภายในมีบ้านพักนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วยนั้น ทางนายกรัฐมนตรีมองว่าคงเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ก่อเหตุ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่า เหตุปาระเบิดปิงปองหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เจ้าหน้าที่รายงานให้ทราบตลอด และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบผู้ต้องสงสัยแล้ว กำลังสอบสวนต่อ นอกจากนี้ยังพบว่ามีระเบิดส่วนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักด้วย คงเป็นกลุ่มเดิมๆ ขณะนี้กำลังหาตัวผู้ขว้างระเบิดอยู่ คาดว่าไม่นานคงเจอตัว ซึ่งไม่อยากให้ใครทำทั้งนั้น จะช่วงนี้หรือช่วงไหนก็ไม่ควรทำ เพราะอันตราย และไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม เพราะตอนนี้บ้านเมืองกำลังดี ส่วนต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่าเจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่ และทุกคนทราบหน้าที่อยู่แล้ว

ฝากขัง “บุ๊ค ธนายุทธ” คดีครอบครองวัตถุระเบิด
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมี 7 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 3 คัน และก่อเหตุช่วงเวลาประมาณ 19.50 น. ของวันที่ 10 เมษายน โดยเมื่อวานนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน มาที่ สน.ท่าเรือ หนึ่งในนั้นคือ “บุ๊ค ธนายุทธ” แร็ปเปอร์วัย 20 ปี และได้ตรวจค้นที่บ้านพัก พบประทัดลูกบอล 164 ลูก ประทัดไข่มังกร 8 ลูก พลุควัน 1 ลูก และระเบิดควันสีดำ 22 ลูก และตัวของบุ๊คมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ

ล่าสุดวันนี้พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ ยื่นคำร้องฝากขัง “บุ๊ค ธนายุทธ” ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองฯ และนายธนายุทธให้การยอมรับว่าพลุและควันสีที่ตรวจยึดได้ในบ้านพักเป็นของตัวเอง แต่ปฏิเสธว่าประทัดลูกบอลและไข่มังกร ไม่ใช่ของตัวเอง


ต่อมาตำรวจ สน.บางซื่อ เข้าสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร กับนายธนายุทธ โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า วันที่ 10 เมษายน นายธนายุทธกับพวก ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และเมื่อเลิกชุมนุม นายธนายุทธขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง จากนั้นขับขี่ไปตามถนนวิภาวดีรังสิตขาออก เมื่อผ่านบริเวณประตูกรมทหารราบที่ 1 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณดังกล่าว และนายธนายุทธกับพวกหลบหนีไปตามถนนวิภาวดีรังสิตขาออก

ต่อมาตำรวจจับนายธนายุทธ พร้อมของกลางประทัดและพลุ ได้ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ จากการสืบสวนพบว่านายธนายุทธและพวก ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นทันที จึงเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยนายธนายุทธให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ส่วนแฟนสาวของนายธนายุทธ ที่ถูกควบคุมตัวพร้อมกันที่บ้านพักย่านคลองเตย ตำรวจนครบาลบางซื่อ แยกไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร โดยฝากขังต่อศาลอาญา รัชดาฯ ไปแล้วเมื่อวานนี้

ขณะที่เยาวชนชาย อายุ 15 ปี ที่ถูกจับพร้อมนายธนายุทธและแฟนสาว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วเช่นกัน

ด้านพันตำรวจเอกดนุภาทร ขวัญพสุมนต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ บอกว่า คดีของนายธนายุทธ ยื่นฝากขังในคำร้องที่เกี่ยวกับการตรวจค้นบ้านพักพบประทัดและพลุควัน ส่วนการสอบสวนคดีปาระเบิดปิงปอง ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 เป็นอำนาจหน้าที่การสอบสวนของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ในการแจ้งอายัดตัวนายธนายุทธไปดำเนินคดี

ส่วนความคืบหน้าคดีปาระเบิดบริเวณประตูกรมทหารราบที่ 1 มีรายงานว่าตำรวจสืบสวนนครบาล 1 และตำรวจสืบสวนนครบาล 2 ร่วมกันขยายผลหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยาน จนทราบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกประมาณ 3 คน โดยหนึ่งในนี้ทราบชื่อเล่นว่านายแม็ค ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกติดตามตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

ล่าสุดช่วงบ่ายตำรวจคุมตัวนายธนายุทธส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังได้ยื่นคำร้องผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปเมื่อช่วงเช้า ขณะที่นายธนายุทธยอมรับว่ารถจักรยานยนต์ 3 คัน ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด เป็นกลุ่มของตนเอง โดยตนเองและแฟนสาวขับคันหน้าสุด ส่วนคันที่ 2 และ 3 เป็นเพื่อนที่รู้จักกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นใคร และยอมรับว่ากลุ่มเพื่อนปาระเบิดจริง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตนเองแน่นอน โดยในวันเกิดเหตุตนเองไปร่วมชุมนุมทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นได้ตระเวนสำรวจพื้นที่ล่วงหน้าเพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมชุมนุมล่วงหน้าในวันสงกรานต์ที่ 13 เมษายน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ