เชียงใหม่ 7 เม.ย. – นักธุรกิจชาวเชียงใหม่มากกว่า 20 คน รวมตัวบุกร้องเรียนตำรวจภูธรภาค 5 หลังถูกนายหน้ากำมะลอ หลอกซื้อขายบ้านและที่ดิน สูญเงินกว่า 5 ล้าน วอนตำรวจอายัดเงินและเปิดโปงขบวนการนี้ ไม่ให้ไปหลอกคนอื่นอีก
นักธุรกิจชาวเชียงใหม่มากกว่า 20 คน รวมตัวเข้าพบพลตำรวจตรี วรพงษ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ให้ช่วยอายัดทรัพย์สิน นางปัทมา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง มีหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ มากถึง 9 คดี หลังถูกตำรวจสืบสวนภาค 5 จับกุมได้ขณะหลบหนี ไปพักอาศัยในหอพักย่านนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดลำพูน โดยผู้เสียหายที่รวมตัวมาในวันนี้ ขอให้ทางตำรวจช่วยอายัดทรัพย์สิน เพื่อนำมาคืนผู้เสียหาย โดยผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความเพิ่มท้องที่เกิดเหตุ เพื่อรับเป็นคดีฉ้อโกงประชาชนซึ่งจะมีโทษเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับพฤติการณ์ของนางปัทมา เริ่มจากอ้างว่าเป็นนักธุรกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ อ้างเป็นเจ้าของบ้านหรือที่ดินที่มีการประกาศขายจริง จากนั้นเพิ่มความน่าเชื่อถือ ด้วยการไปยืนถ่ายรูป อ้างเป็นเจ้าของที่ดินหรือบ้านหลังนั้น นำไปเสนอขายราคาถูกและขอเงินมัดจำก่อน หรือหลอกในการนำที่ดินเข้าจำนอง แต่ขอเงินวางมัดจำ และหลบหนีไปติดต่อไม่ได้ มีจิตวิทยาความสามารถในการโน้มน้าว หลอกล่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และรู้วิธีหลบเลี่ยงจากการจับกุม ซึ่งขณะนี้นางปัทมา ถูกจับกุมดำเนินคดีที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ หากผู้เสียหายคนไหน ยังไม่ได้แจ้งความให้ไปแจ้งความเพิ่มได้ เพื่อรวบรวมเป็นคดีเดียวกัน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และหากยึดทรัพย์สินคืนมาได้ ก็จะนำมาเฉลี่ยให้กับผู้เสียหาย
ลูกสาวของผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้การว่า ก่อนหน้านี้แม่ของตนเองได้ติดต่อขอซื้อที่ดินและติดตามทางเพจซื้อขายที่ดิน จนกระทั่งมารู้จักกับนางสาวปัทมา ผู้ต้องหา โดยนางสาวปัทมา อ้างว่า มีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งจะแบ่งขายในราคา ล้านกว่าบาท เนื้อที่ 91 ตารางวา และได้ตกลงซื้อขายไปดูที่ดิน 1 ครั้ง จากนั้นก็ขอวางมัดจำ 2 แสนกว่าบาท และครั้งที่ 2 อีก สามแสนกว่าบาท รวม 5 แสนกว่าบาท หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็หนีหายไปเลย จึงแจ้งความไว้จนกระทั่งตำรวจติดตามจับกุมได้ดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย