จ่อเรียกสอบ “ผู้สอบบัญชี” เงินสมาชิกหายรวม 200 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 เม.ย.- กรณีทุจริตยักยอกทรัพย์เงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังพบบัญชีเงินฝากสมาชิกถูกถอนรวมเเล้ว 200 ล้านบาท อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เตรียมเรียกสอบ “ผู้สอบบัญชี” ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่ต้องสงสัยว่า ปลอมลายมือชื่อสมาชิกเบิกเงินออกไป 


หลังพบบัญชีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกยักยอกเบิกเงินออกไป โดยเจ้าของบัญชีตรวจพบความปิดปกติจากระบบออนไลน์ ล่าสุด นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ตรวจสอบความเสียหายจากการยักยอกเงินของสหกรณ์ ล่าสุดพบว่ามีการแอบถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมาชิกรวมแล้ว 200 ล้านบาท แต่ขอให้สมาชิกไม่ต้องตกใจ ยืนยันสมาชิกต้องได้รับคืนเงินฝากเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยเนื่องจากมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของสหกรณ์ โดยสมาชิกสามารถนำสมุดบัญชีเงินฝากมายืนยันข้อมูลต่อสหกรณ์

นายอำพันธุ์ กล่าวอีกว่า กองกำกับการสอบบัญชีสหกรณ์ได้เร่งตรวจสอบผลงานของผู้สอบบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีเอกชนที่สหกรณ์ว่าจ้าง ว่า ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งได้เรียกให้ผู้สอบบัญชีมาชี้แจงเพิ่มเติม  


เบื้องต้นพบข้อสังเกต 3 ประเด็นคือ  

1) ไม่พบหลักฐานการยืนยันยอด 

2) ไม่มีรายงานที่เกี่ยวกับการประเมินผลการควบคุมภายในของสหกรณ์ 


3) ไม่พบหลักฐานการประเมินความเสี่ยงในขั้นตอนการวางแผนงานสอบบัญชี 

หากผู้สอบบัญชีปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการสอบบัญชีและระเบียบที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด จะพิจารณาจรรยาบรรณ โดยไม่มีการละเว้น ตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยจรรยาบรรณของผู้สอบบัญชีสหกรณ์ พ.ศ.2559 มีบทลงโทษ 4 ระดับ ได้แก่

1) ตักเตือนเป็นหนังสือ

2) ภาคทัณฑ์

3) ไม่แต่งตั้งเป็นผู้สอบ มีกำหนดไม่เกิน 5 ปี

4) ถอนชื่อออกจากทะเบียนผู้สอบบัญชี

พร้อมจัดตั้งทีมตรวจสอบเฉพาะกิจ ให้นางสาวอัญมณี  ถิรสุทธิ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์เป็นหัวหน้าทีมเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ล่าสุดพบพฤติการณ์ 2 ลักษณะที่เป็นจุดอ่อนของการควบคุมภายในที่สำคัญของสหกรณ์ฯ คือ 1.สมาชิกฝากสมุดบัญชีเงินฝากไว้กับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และ2.เจ้าหน้าที่ปลอมแปลงลายมือชื่อสมาชิกถอนเงิน

ส่วนที่เป็นห่วงผลกระทบจากสหกรณ์พัฒนาโปรแกรมตรวจสอบต่อยอดจากโปรแกรมระบบตรวจสอบบัญชีเชิงลึก (CATS) ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด ที่ผ่านมาสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ไม่เคยถูกร้องเรียนหรือมีปัญหาทุจริต ทั้งนี้ ทั่วประเทศ มีสหกรณ์ 1,178 แห่งที่ว่าจ้างผู้สอบบัญชีเอกชน ซึ่งกรมได้ตรวจสอบรายงานสอบบัญชีตามความเสี่ยงของสหกรณ์ โดยกรมจะรวบรวมข้อมูลการตรวจสอบทั้งหมดเสนอรายงานต่อนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในวันพรุ่งนี้ (6 เม.ย.) 

ด้านสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศปิดทำการ 2 วันเพื่อตรวจสอบข้อมูลการเงินของสมาชิกให้ครบ 100 % ทุกคน โดยจะเปิดทำการวันที่ 7 เม.ย. ก่อนหน้านี้ ประธานสหกรณ์ออกแถลงการณ์ยืนยัน สหกรณ์มีเงินทุนเพียงพอในการทำธุรกรรม แต่หากสมาชิกพากันถอนเงินออกจะส่งผลให้ขาดสภาพคล่องและกระทบถึงสมาชิกทุกคน  จึงขอให้สมาชิกอย่าตกใจ แล้วรีบถอนเงิน โดยสหกรณ์กำลังรวบรวมหลักฐานในเบื้องต้นเพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาจนถึงที่สุด และยึดทรัพย์สินคืนสหกรณ์ให้มากที่สุด ขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องสงสัยตลอดจนบริวารเพื่อยึดอายัดทรัพย์ พร้อมยืนยันว่าเงินฝากของสมาชิกต้องได้คืนครบตามจำนวนพร้อมดอกเบี้ย

ในตรวจสอบเบื้องตัน สหกรณ์ฯพบว่า มีการปลอมลายมือชื่อสมาชิกถอนเงินและบันทึกข้อมูลในสมุดบัญชีคู่ฝากเท็จ แต่รายการอื่นเช่น มูลคำหุ้น การกู้เงิน เป็นต้น ยังไม่พบความผิดปกติ โดยขอให้สมาชิกทุกคนตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากระบบสมาชิกออนไลน์เปรียบเทียบกับสมุดบัญชีคู่ฝาก หากไม่ตรงกันให้ยื่นคำร้องขอตรวจสอบโดยด่วน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้ว คณะกรรมการจะพิจารณาคืนเงินฝากของสมาชิกให้ครบตามจำนวนพร้อมตอกเบี้ยตามประกาศสหกรณ์ต่อไป ยืนยันว่า สภาพการเงินของสหกรณ์ยังเพียงพอในการทำธุรกรรมให้แก่สมาชิกและมีเงินทุนสำรองเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหานี้ และได้วางแนวทางเกี่ยวกับการถอนเงินฝากและลาออกของสมาชิกไว้ด้วยแล้ว 

ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว ผู้จัดการสหกรณ์และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ผู้ต้องสงสัย ที่ทำหน้าที่รับฝาก-ถอนเงิน อาศัยโอกาสที่ทำงานการเงินและบัญชีให้กับสหกรณ์มานาน รู้รหัสบัญชีเงินฝากของสมาชิกและนำไปใช้ยักยอกถอนเงินออกมาเอง ซึ่งจะเลือกบัญชีสมาชิกที่เงินในบัญชีไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว นอกจากนี้จะขยายผลผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกระทำผิดเพิ่ม โดยสหกรณ์ออมทรัพย์สหกรณ์กระทรวงเกษตรฯ ได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว หลังปรากฏข่าวว่าผู้ต้องสงสัยหายตัวไป ไม่มาทำงาน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก