กรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงผลกระทบกฎกระทรวงเกี่ยวกับการฝากการลงทุน

24 ธ.ค. – กรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงผลกระทบของกฎกระทรวงเกี่ยวกับการฝากการลงทุน ป้องสหกรณ์ไม่ให้ขาดทุนหนัก ให้โอกาสทำแผนปรับสัดส่วนการลงทุนได้ถึง 10 ปี


กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงข้อกังวลของสหกรณ์เกี่ยวกับประกาศกฎกระทรวงการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2567 เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการลงทุนของสหกรณ์ไม่ให้ขาดทุนหนัก พร้อมเปิดโอกาสในการจัดทำแผนปรับสัดส่วนการลงทุนได้ถึง 10 ปี

ตามที่ได้มีการประกาศกฎกระทรวงการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยน พ.ศ.2567 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อกำกับดูแลเกี่ยวกับการดำเนินงานและการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ตามมาตรา 89/2 (8) เกี่ยวกับเรื่องการฝากเงินและการลงทุน สำหรับสหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์มีสภาพคล่องทางการเงินสูง และมีการลงทุนตามมาตรา 62 ซึ่งสหกรณ์บางแห่งเกิดข้อกังวลว่า การออกกฎกระทรวงในครั้งนี้มีข้อจำกัดในเรื่องเกณฑ์การกระจุกตัวที่ให้ฝากหรือลงทุนนิติบุคคลต่อแห่งได้ไม่เกิน 10% ของทุนเรือนหุ้น+ทุนสำรองของสหกรณนั้นๆ รวมถึงข้อจำกัดที่ให้ลงทุนได้ไม่เกินทุนเรือนหุ้น+ทุนสำรอง จะทำให้สหกรณ์เกิดผลกระทบในการบริหารจัดการสภาพคล่องส่วนเกิน เช่น อาจต้องลดดอกเบี้ยเงินฝากลงหรือจะทำให้เงินทุนของสหกรณ์ลดลง สมาชิกโยกย้ายเงินฝากจากสหกรณ์ไปฝากหรือลงทุนอย่างอื่น ทำให้เงินไหลออกไปจากระบบสหกรณ์จนกระทั่งเกิดผลกระทบต่อสินทรัพย์ในภาพรวมของระบบสหกรณ์นั้น


นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า “สหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งซึ่งมีเงินเหลือ (Surplus) จากการทำธุรกิจกับสมาชิกควรมีทางใช้ไปของเงินที่ก่อประโยชน์ตอบแทนที่สมเหตุสมผล วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสหกรณ์มิได้เป็นไปเพื่อแสวงหาผลกำไรมาแบ่งปัน การลงทุนของสหกรณ์จึงเป็นเพียงการบริหารสภาพคล่องคงเหลือจากการดำเนินธุรกิจกับสมาชิกและเครือข่ายสหกรณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์จากภาระต้นทุนทางการเงินของสหกรณ์เท่านั้น อีกทั้ง การลงทุนในตลาดทุนมีความเสี่ยงและความผันผวนซึ่งอาจส่งผลกระทบกับเงินของสหกรณ์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมาชิกสหกรณ์จึงจำเป็นต้องออกข้อกำหนดมากำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม กฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ได้กำหนดบทเฉพาะกาลไว้ 2 กรณี กรณีที่ 1 สหกรณ์ที่ฝากเงิน หรือลงทุนในนิติบุคคลต่อแห่งเกิน 10 % สามารถจัดทำแผนเพื่อปรับสัดส่วนการลงทุนได้ภายใน 5 ปี ในช่วงแรกของการปรับตัว อาจยังกำหนดแผนให้มีการซื้อเข้าขายออกได้ตามปกติ แต่ต้องไม่เกินยอดเดิมของนิติบุคคลนั้น กรณีที่ 2 สหกรณ์ที่ลงทุนเกินกว่าทุนเรือนหุ้น+ทุนสำรอง จะมีวิธีการให้เวลาในการปรับตัวในลักษณะเดียวกันกับกรณีที่ 1 ได้ภายใน 10 ปี และสหกรณ์สามารถเพิ่มทุนเรือนหุ้นได้ทุกเดือน อีกทั้ง เมื่อครบกำหนดสหกรณ์ดำเนินการตามกฎกระทรวงนี้ไปแล้วภายในระยะเวลา 5 ปี กรมส่งเสริมสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำผลการดำเนินการ และผลกระทบมาพิจารณาว่าสมควรทบทวนหรือปรับปรุงหลักเกณฑ์อีกครั้งหรือไม่“ นายวิศิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย