อุบลราชธานี 20 มี.ค.- ธ.ก.ส. หนุนเกษตรแปลงใหญ่ คิดดอกเบี้ย 0.01% หรือล้านละร้อย ลดต้นทุน เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้ชุมชน ปล่อยกู้ไปแล้ว 366 กลุ่ม วงเงิน 2 พันล้าน
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มและจัดหาปัจจัยการผลิตร่วมกัน ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ทั้งการผลิต การแปรรูป การรวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่าย พร้อมปล่อยกู้ ให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่าลงทุน วงเงินสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยทั้งโครงการร้อยละ 3.01 ต่อปี กลุ่มเกษตรกรฯจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี หรือล้านละร้อย
ทั้งนี้รัฐบาล ชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.แทนเกษตรกร ร้อยละ 2.875 ต่อปี และธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยเองร้อยละ 0.125 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีนับตั้งแต่วันกู้ เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2575 ปัจจุบันปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเกษตรกรฯไปแล้ว 366 กลุ่ม เป็นเงิน 2,104 ล้านบาท ในส่วนของพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 7 กลุ่ม เป็นเงิน 8.14 ล้านบาท
สำหรับหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่ ต้องเป็นสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร ที่รวมตัวกันตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป และมีพื้นที่การผลิต ทั้งประเภท พืชไร่ ยางพารา ข้าว ปาล์ม ไม้ผล พืชผัก ไม้ดอก ประมงและปศุสัตว์ รวมกันตั้งแต่ 300 ไร่ขึ้นไป ในส่วนของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตดอกเบญจมาศแปลงใหญ่บ้านตาติด ตำบลในเมือง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นตัวอย่างการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาการเกษตรแปลงใหญ่ที่สามารถลดต้นทุนการผลิต
เช่น การซื้อปุ๋ย ยา กระดาษในการห่อดอกเบญมาศ รวมถึงการขยายองค์ความรู้ในการผลิตต้นพันธุ์เอง ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับสมาชิกกว่า 43 ราย ที่สำคัญทำให้กลุ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ค้าและผู้ซื้อทั่วประเทศและเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายดอกเบญจมาศในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างทั้งหมด หากกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์ฯที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปหรือ Call Center 02 555 0555 .-สำนักข่าวไทย