พรรคเศรษฐกิจไทย ชู “มั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน”

พรรคเศรษฐกิจไทย 18 มี.ค. – ที่ประชุมใหญ่พรรคเศรษฐกิจไทยเลือก “พล.อ.วิชญ์” นั่งหัวหน้าพรรค-“ธรรมนัส” นั่งเลขาฯ พรรค พร้อมเปิดตัวพรรค อดีต ส.ส.-ดารา เข้าร่วมเพียบ ชูสโลแกน “มั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2565 นำโดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิส ณ อยุธยา แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร  นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อม ส.ส.ของพรรค

พล.อ.วิชญ์ และ ร.อ.ธรรมนัส ได้นำ ส.ส.พรรค ทำพิธีบวงสรวงเจ้าที่ เนื่องในโอกาสเข้ามาเปิดที่ทำการพรรคเป็นครั้งแรก เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกพรรคจากทุกภาคทั่วประเทศ รวมถึงอดีต ส.ส.ของพรรคการเมือง และบุคคลอื่นที่เป็นที่รู้จักในสังคม ร่วมประชุมในฐานะสมาชิกพรรค อาทิ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทยและอดีตบ้านเลขที่ 111 นายไพร พัฒโน อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงนายปีเตอร์ ไมอ๊อกชิ นักแสดง


จากนั้นเข้าสู่วาระการประชุม โดยมีการปรับแก้ข้อบังคับพรรค และตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหญ่ ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือน เม.ย. จะมีการประชุมใหญ่พรรคอีกครั้ง และเปิดตัวบุคลากรที่จะมาร่วมงานอย่างเป็นทางการ

สำหรับผลการประชุมพรรค พล.อ.วิชญ์ ได้รับเลือกนั่งหัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค, น.ส.ธนพร ศรีวิราช เป็นเหรัญญิกพรรค, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค พร้อมกรรมการบริหารพรรคอีก 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส

โดย พล.อ.วิชญ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคที่มอบความไว้วางใจ พร้อมสัญญาว่าจะนำพรรคเศรษฐกิจไทยไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนรวมใจ รวมพลังไปสู่ความสำเร็จ ให้พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นสถาบันทางการเมือง และเป็นที่พึ่งของประชาชนชาวไทยตลอดไป จากนั้นจึงเข้าสู่วาระการคัดเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 12 คน


ทั้งนี้ สมาชิกพรรคที่ลงทะเบียนแล้วจะได้รับการแจกเสื้อยืด สกรีนชื่อพรรคเศรษฐกิจไทย “มั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน” โดยโลโก้เป็นลูกศรสามเส้นชี้ขึ้นเป็นสีธงชาติ ซึ่งก่อนเริ่มประชุมได้เปิดวีดิทัศน์ที่มาของพรรคร่วมถึงวิสัยทัศน์ “สร้างเศรษฐกิจไทยให้มั่งคั่ง สร้างชีวิตคนไทยให้มั่นคง ก้าวสู่แนวหน้าทางเศรษฐกิจในเวทีโลก”     

ส่วนความหมายตราสัญลักษณ์พรรคเศรษฐกิจไทยลูกศรสีธงชาติทะยานขึ้น หมายถึงพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมจะนำพาพัฒนาประเทศไทยพุ่งทะยานสู่ความเจริญรุ่งเรือง แถบเงาสีเทาหมายถึงปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชนทุกสาขาอาชีพ ที่บอบช้ำมานานจะต้องได้รับการแก้ปัญหาและนำพาประชาชนไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ทั้งแผ่นดิน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง