กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- รัฐบาลเดินหน้าผลักดันระบบสหกรณ์เข้มแข็ง แก้ปัญหาเกษตรยั่งยืน พร้อมเชื่อมโยงอีคอมเมิร์ซขายสินค้าสหกรณ์ทั่วโลก หวังเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายชาวนาชาวไร่วิสาหกิจชุมชน
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลส่งเสริมให้เกษตรกร ชาวนาชาวไร่ และวิสาหกิจชุมชน รวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน จากที่แต่ละคนไม่สามารถแก้ปัญหาตามลำพังได้ ไปสู่การดำเนินวิสาหกิจ ที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน มีเงินทุนหมุนเวียน มีอำนาจต่อรองในการซื้อขายสินค้า และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
“ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ ประมาณ 107 แห่งทั่วประเทศ ให้สมาชิกสหกรณ์ส่งสินค้าไปขาย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่เริ่มจัดตั้งเดือน ต.ค.58 – พ.ค.59 เพียง 6 เดือน มียอดจำหน่ายรวมกว่า 6,300 ล้านบาท” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าว่า นอกจากนี้ รัฐบาลได้ต่อยอดเชื่อมโยงกับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มช่องทางการตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลก โดยนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่มีคุณภาพดี ไปบรรจุไว้ในตลาดสินค้าสหกรณ์ออนไลน์ www.co-opclick.com ประกอบด้วยสินค้า 9 หมวด คือ ข้าวสาร น้ำดื่ม นม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแปรรูป ผลไม้ กาแฟ สินค้าประมง และสินค้าโอท็อป
“นายกฯ ชื่นชมการดำเนินงาน ที่พยายามช่วยเหลือเกษตรกรอย่างครบวงจร เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ไม่ใช่อุดหนุนเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยย้ำว่า จุดเด่นของตลาดออนไลน์ที่รัฐบาลส่งเสริม ช่วยทำให้เกษตรกรและสหกรณ์ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการจัดทำห้องแสดงสินค้า หรืออาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และขยายตลาดสินค้าไปได้ในทุกพื้นที่ ล่าสุด Alibaba.com ได้ร่วมมือกับ ม.หอการค้าไทย เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสร้างผู้ประกอบการใหม่ได้ 5,000 คนต่อปี และช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติได้มากยิ่งขึ้น”พล.ท.สรรเสริญ กล่าว .- สำนักข่าวไทย