ยูเครน 7 มี.ค. – รัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีเมืองเอียร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟ อย่างหนัก ทหารยูเครนพาประชาชนอพยพหนีตายออกจากเมือง ขณะที่รองนายกรัฐมนตรียูเครน อ้างรัสเซียยิงมั่วโจมตีเป้าหมายพลเรือน ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน แม้กระทั่งเนิร์สเซอรี
เมื่อวานนี้ กองทัพรัสเซียพุ่งเป้าโจมตีเมืองเอียร์ปิน ซึ่งตั้งอยู่นอกกรุงเคียฟ อย่างหนักหน่วง ด้วยการยิงปืนใหญ่โจมตีย่านที่อยู่อาศัยในเมืองเอียร์ปิน ทำให้อาคารบ้านเรือนถูกทำลาย ในจำนวนนี้รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน และเนิร์สเซอรี ตามคำกล่าวอ้างของรองนายกรัฐมนตรีโอลา สเตฟานิชยานา จนเกิดไฟไหม้ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ชาวเมืองเอียร์ปินต้องอพยพออกจากเมืองด้วยความหวาดกลัว ทหารยูเครนช่วยรักษาความปลอดภัยในการพาประชาชนอพยพออกจากเมืองเอียร์ปิน ขณะที่เส้นทางในการอพยพประชาชนก็ยากลำบาก ผู้คนจำนวนมากต้องเดินเท้าหนีออกจากเมือง ผ่านถนนหลายสายและสะพานที่ถูกรัสเซียโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ มีรายงานพลเรือนเสียชีวิต 4 ราย จากระเบิดถล่มสะพาน ขณะที่พวกเขากำลังเดินข้ามเพื่อหนีออกจากเมืองพอดี
ด้านนักข่าวหลายคนต้องรีบหนีออกจากพื้นที่และหลบกระสุนปืนใหญ่กันจ้าละหวั่น เมื่อกองทัพรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองเออร์ปิน ขณะที่กองทัพรัสเซียรุกคืบเข้าสู่กรุงเคียฟ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว นักข่าวต่างวิ่งเข้าที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับที่คนในพื้นที่ใช้หนีออกจากเมือง
ส่วนการอพยพพลเรือนบางส่วนจากทั้งหมดกว่า 400,000 คน ในเมืองมารีอูปอล ที่ติดอยู่ภายในวงล้อมของกองกำลังรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวรอบใหม่ที่สิ้นสุดในเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ก็ต้องยกเลิกอีกครั้ง เพราะรัสเซียเปิดฉากโจมตี หลังจากแผนอพยพประชาชนรอบแรกถูกยกเลิกไปเมื่อวันเสาร์ เพราะมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยทั้งยูเครนและรัสเซียต่างโทษกันไปมาว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่สถานการณ์ในเมืองตอนนี้ยากลำบากสำหรับชาวบ้าน เพราะไม่มีทั้งไฟฟ้า น้ำประปา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แล้ว ส่วนอาหาร น้ำดื่ม และของจำเป็นสำหรับคนที่ติดอยู่ในเมืองก็ใกล้จะหมด ทั้งนี้ รัสเซียหวังบุกยึดมารีอูปอล เนื่องจากเป็นเมืองทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมระหว่างดินแดนของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนที่มีรัสเซียหนุนหลังกับทางเหนือของประเทศ รวมถึงภูมิภาคไครเมีย ทางตอนใต้
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยว่า กองทัพรัสเซียเสร็จสิ้นภารกิจทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารหลักของยูเครน ซึ่งครอบคลุมคลังสรรพาวุธ คลังกระสุน ระบบการบิน และระบบป้องกันภัยทางอากาศ เกือบทั้งหมดแล้ว และปฏิบัติการในยูเครนกำลังเดินหน้าอย่างสอดคล้องกับแผนการและกำหนดเวลาที่วางไว้
ส่วนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 8 ลูก ถล่มสนามบินเมืองวินนิทเซีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน เสียหายโดยสิ้นเชิง สะท้อนความจำเป็นที่ยูเครนร้องขอให้กำหนดเขตห้ามบิน ซึ่งหากชาติตะวันตกไม่จัดให้ รวมถึงไม่ส่งเครื่องบินรบไปช่วยยูเครน ก็มีบทสรุปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ เท่ากับต้องการให้ชาวยูเครนถูกฆ่าตายอย่างช้าๆ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า การที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ตัดสินใจไม่ประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครน เพราะเกรงว่าชาติตะวันตกจะถูกดึงเข้าสู่สงคราม และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยังเตือนก่อนหน้านี้ด้วยว่า ใครก็ตามที่ประกาศปิดน่านฟ้ายูเครน จะถือว่าเป็นศัตรูของรัสเซียด้วย
ทั้งนี้ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตลอด 11 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้จนถึงขณะนี้มีชาวยูเครนที่สามารถอพยพได้พากันเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านของยูเครน ได้แก่ โปแลนด์ โรมาเนีย สโลวาเกีย และประเทศอื่นๆ เชื่อว่าถึงตอนนี้จำนวนผู้อพยพน่าจะทะลุ 1.5 ล้านคนแล้ว เป็นวิกฤติผู้อพยพครั้งเลวร้ายที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา. – สำนักข่าวไทย