คนไทยชุด 2 จากยูเครนถึงไทยแล้ว

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2 มี.ค.-คนไทยจากยูเครนชุดที่ 2 จำนวน 58 คนกลับถึงไทยแล้ว ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ พร้อมเผยวินาทีเอาชีวิตรอด ลั่นไม่กลับไปอีก ของานรองรับ  


นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวภายหลังให้การต้อนรับคนไทยชุดที่ 2 จำนวน 58 คน ที่เดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384 ออกจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์มาถึงประเทศไทย เวลา 12.05 น. ว่า หลังจากนี้จะให้คนไทยทั้งหมดไปกักตัวและรอฟังผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่สถาบันบำราศนราดูรภายใน 24 ชั่วโมง หากพบว่าไม่ติดเชื้อสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมได้ และต้องตรวจแบบ ATK ซ้ำภายใน 5 วันด้วยตนเอง หากผลออกมาเป็นบวกจะดูแลรักษาต่อตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข

“ผู้โดยสารในกลุ่มที่ 2 ปลอดภัยจากเชื้อ โควิด-19 ทั้งหมด ซึ่งทุกคนมีอาการปกติ และไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับประชาชนโดยทั่วไปที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจ RT-PCR ออกแล้ว สามารถเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับสถานทูตที่ยูเครน พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อ โควิด-19 ไม่น่าเป็นห่วงและไม่มีความเสี่ยงระดับรุนแรง ทำให้การรับคนไทยกลับมาเสมือนประชาชนทั่วไปที่กลับจากต่างประเทศ” นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำหรับบรรยากาศการเดินทางกลับของคนไทยในวันนี้(2 มี.ค.) ทุกคนมีสีหน้าดีใจ โดยหนึ่งในคนไทยที่เดินทางกลับจากยูเครนชุดที่ 2 กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาถึงเมืองไทย ซึ่งได้รับการประสานช่วยเหลือจากเอกอัครราชทูตไทยณกรุงวอร์ซอเป็นอย่างดี และเมื่อต่อเครื่องที่ดูไบก็มีเจ้าหน้าที่มารอต้อนรับ ส่วนสถานการร์ในยูเครน ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยตลอดเวลา หลังการโจมตีเกิดขึ้น โดยภาพที่เห็นคือคนยูเครนทยอยอพยพออกจากเมือง แต่กลุ่มคนไทยพยายามสื่อสารเพื่อหาช่องทางอพยพออกมา

“ทุกอย่างบีบหัวใจเพราะมีเสียงเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เรื่อย ๆ และได้ยินเสียงระเบิดตลอดเวลา ซึ่งในระหว่างที่ออกมาบางคนแทบไม่สามารถหยิบอะไรออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว และต้องวิ่งไปที่สถานีรถไฟ เพื่อจะเดินทางไปยังเมืองลวีฟ เพราะทางการไม่สามารถนำรถมารับได้เลย” คนไทยจากยูเครน ระบุ

ส่วนอีกหนึ่งคนไทยเล่าวินาทีหนีเพื่อเอาชีวิตรอดจากกรุงเครียฟ ในสถานการณ์โจมตีของรัสเซีย ว่า ตนและเพื่อนพยายามวิ่งไปที่สถานีรถไฟ แต่สถานการณ์ชุลมุนมากทำให้เพื่อนพลัดตกลงไปในรางรถไฟ ทุกคนพยายามช่วยกันดึงขึ้นมา คิดว่าอาจจะไม่ได้ขึ้นมาจากรางรถไฟแล้ว แต่ทุกคนพยายามฮึดสู้เอาชีวิตรอดมาให้ได้


“ดิฉันคิดถึงหน้าลูก ทำให้มีแรงวิ่ง และอยากเดินทางกลับประเทศไทย จึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยทันที เพราะเสียงระเบิดและเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นตลอดเวลา อยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือให้พวกเราได้เดินทางกลับไทย ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร เพราะเท่ากับว่าทุกคนตกงาน สิ่งที่อยากได้เพียงขอให้มีงานรองรับ และไม่คิดจะกลับไปทำงานที่ยูเครนอีก ทุกคนเห็นตรงกันว่าไม่อยากกลับไปแล้ว เนื่องจากไม่ปลอดภัย” คนไทยคนหนึ่ง ระบุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่