กรุงเทพฯ 28 ก.พ.- สมาคมธนาคารไทย ผนึกกำลังตำรวจไซเบอร์ สกัดการโอนเงินระหว่างบัญชีม้า เปิดรับแจ้งความออนไลน์ รับมือภัยคุกคามทางเทคโนโลยี
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กับสถาบันการเงิน ว่า ปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน และเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกัน โดยใช้เทคโนโลยีหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อและโอนเงินให้กับมิจฉาชีพ ก่อนจะโอนต่อไปยังกลุ่มเครือข่ายด้วยความรวดเร็ว ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและลูกค้าธนาคารเป็นวงกว้างและทวีความรุนแรง ทุกภาคส่วนจึงต้องเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามทางเทคโนโลยี หรือความเสี่ยงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ได้นำเทคโนโลยีมายกระดับกระบวนการระหว่างประชาชน ตำรวจ และภาคธนาคาร ผ่านโครงการระบบรับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการสอบสวนดำเนินคดี ลดข้อจำกัดของประชาชนผู้เสียหายไม่ต้องเดินทางไปแจ้งความด้วยตนเองที่สถานีตำรวจท้องที่ ในช่วงที่มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และช่วยสกัดการถ่ายโอนเงินระหว่างบัญชีม้าได้เร็วขึ้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการติดตามธุรกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคดี สามารถติดตามและวิเคราะห์รูปแบบการกระทำผิดของมิจฉาชีพได้ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกทุกแห่ง พร้อมให้ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารแห่งประเทศไทย กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อวางระบบป้องกัน เตือนภัย ติดตาม และสื่อสารแจ้งเตือนเชิงรุกแก่ลูกค้าธนาคาร ตลอดจนยกระดับระบบป้องปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและภัยคุกคามจากการทำธุรกรรมต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ ส่วนช่องทางการรับแจ้งความออนไลน์ คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คือ www.THAIPOLICEONLINE.com หรือที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1441 หรือ 081-8663000.-สำนักข่าวไทย