สมาคมธนาคารไทย ปิดแล้วกว่า 3 แสนบัญชีออนไลน์ต้องสงสัยบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – สมาคมธนาคารไทย-สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ออกมาตรการป้องกันบัญชีม้าเปิดใหม่ ประเมินความเสี่ยงก่อนเปิดบัญชีเงินฝาก ขยายผลตรวจจับ ปิดแล้วกว่า 300,000 บัญชีออนไลน์ต้องสงสัย หนุนยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ธปท.


ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน โดยมุ่งการป้องกันและจัดการกับปัญหาบัญชีม้า เพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือสำหรับมิจฉาชีพในการรับ-ส่งเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนรวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันภัยทางการเงินให้กับประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพนั้น   

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงปัญหาภัยคุกคามทางการเงินที่ทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนยกระดับมาตรการจัดการภัยคุกคามทางการเงิน และการจัดการบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง มีแนวทางปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น สอดรับกับรูปแบบภัยการเงินที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพื่อดูแลลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการเงินของประเทศ โดยสมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก พร้อมสนับสนุนการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินของ ธปท. โดยจัดทำแนวทางปฎิบัติภาคธนาคารร่วมกันผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการป้องกันบัญชีม้าที่จะเปิดใหม่ และการขยายผลตรวจจับบัญชีม้าที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะยกระดับการป้องกันบัญชีม้า  2 ส่วน ดังนี้ 


  1. มาตรการป้องกันบัญชีม้าเปิดใหม่ โดยจะมีการประเมินความเสี่ยงของบุคคลที่มาเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารว่า มีแนวโน้มจะนำบัญชีไปใช้ทุจริตหรือไม่ เช่น การเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่สำหรับกลุ่มบุคคลที่อยู่ในรายชื่อบุคคลมีความเสี่ยงสูง หรือกลุ่มบุคคลที่มีข้อสงสัยว่า อาจเป็นบัญชีม้า หรือ เคยเป็นบัญชีม้ามาก่อน 
  2. มาตรการขยายผลการตรวจจับและการจัดการบัญชีม้าให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีที่อาจเป็นบัญชีม้าข้ามธนาคาร การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีบัญชีกับธนาคาร (กระบวนการ CDD) และการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากหน่วยงานราชการกับธนาคาร เป็นต้น เพื่อให้แต่ละธนาคารนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการตรวจจับบัญชีต้องสงสัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อธนาคารตรวจพบบัญชีต้องสงสัยจะดำเนินการตามมาตรการขั้นต่ำ โดยระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ทันที เพื่อให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตน และแสดงหลักฐานว่าเป็นผู้ใช้บัญชีจริง และไม่ได้นำบัญชีไปใช้ทำทุจริต พร้อมนำส่งข้อมูลบัญชีต้องสงสัยไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและออกคำสั่งทางปกครองเพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยต่อไป โดยปัจจุบันธนาคารได้ปิดช่องทางออนไลน์ของบัญชีต้องสงสัยไปแล้วกว่า 300,000 บัญชี

สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการเปิดบัญชีม้า หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้าว่า มีโทษตามกฎหมาย อีกทั้ง ภาคธนาคารมีมาตรการจัดการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดทันที และพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ตลอดจนมาตรการอื่นที่จะมีการกำหนดเพิ่มเติม รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์หรือพัฒนากำหนดฟังก์ชั่นการใช้งานของโมบายแบงกิ้งเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับลูกค้าในอนาคต โดยภาคธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้บริการ หรือ การทำธุรกรรมของลูกค้าทั่วไป โดยปริมาณธุรกรรมที่ต้องสงสัย นับเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับธุรกรรมทั้งหมดในระบบของธนาคาร โดยสมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกเชื่อมั่นว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้สามารถตรวจจับบัญชีม้าในระบบ และลดบัญชีม้าเกิดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชน ประกอบด้วย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ธปท., สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Telco) เพื่อพัฒนาแนวทางในการจัดการภัยคุกคามทางการเงินในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

นายวิทัย รัตนากร ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (GFA) กล่าวว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้ทุกธนาคารดำเนินนโยบายมาตรการบริหารจัดการภัยทุจริตทางการเงินนั้น สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง ได้ปรับปรุงการให้บริการทางการเงิน ด้วยแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องตามมาตรการ และเป็นมาตรฐานเดียวกันกับสมาคมธนาคารไทย ทั้งด้านธรรมาภิบาลและด้านการบริหารจัดการภัยทุจริต เพื่อให้มีมาตรการป้องกัน ตรวจจับภัยทุจริตทางการเงิน ตอบสนองและรับมือต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งได้มีการร่วมหารือ การให้คำปรึกษา ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ระหว่างธนาคารสมาชิกตลอดที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินของรัฐ ยังมีกลุ่มลูกค้าบางส่วนที่แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องให้การดูแลและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มลูกค้าฐานรากและภาคเกษตรที่เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารหรือการประชาสัมพันธ์การแจ้งภัยทุจริตทางการเงิน สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จึงมีแผนในการพัฒนาและยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของ Mobile Banking หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ให้สอดคล้องกับมาตรการบริหารจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ด้วยการจำกัดการโอนเงินเฉพาะระหว่างบัญชีของตนเอง บุคคลในครอบครัว และการสแกนจ่ายภายในวงเงินที่จำกัด เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่กังวลภัยจากมิจฉาชีพที่หลอกให้โหลดแอปดูดเงิน การข่มขู่หรือหลอกลวงให้โอนเงิน การหลอกให้ลงทุน หรือผู้ที่ไม่กล้าใช้ Mobile Banking โดยมีแผนจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 3 ถึง 6 เดือน ตัวอย่างเช่น ธนาคารออมสินจะออก Function ใหม่ ที่เรียกว่า MyMo Secure Plus ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ-นำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิต 5 ราย ออกจากพื้นที่แล้ว ความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา พื้นที่ชายแดน เขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ (25 ก.ค.) กระสุนปืนของฝั่งกัมพูชาตกมาที่ฝั่งไทย ค่าย ตชด.224 ประมาณ 3 ลูก ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ EOD ที่ปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้ระเบิดตั้งแต่ช่วงเช้า ต้องออกจากที่เกิดเหตุด่วน ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยยังทำการเก็บกู้ระเบิดที่หลงเหลือยังไม่แล้วเสร็จ เพราะกระสุนของทางกัมพูชายิงมาใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงทำการอพยพชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการเก็บกู้ระเบิดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าเก็บร่างผู้เสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อ พบผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

รอง มทภ.2 เยี่ยมปลอบขวัญ ปชช. เชื่อสถานการณ์จบใน 3-7 วัน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ปลอบขวัญประชาชนที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าสถานการณ์จะจบภายใน 3-7 วัน พลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมายังที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนมาลงทะเบียนพักมากที่สุดกว่า 5,000 คน โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าติดปัญหาได้หรือไม่ เช่น เรื่องห้องน้ำอาหาร และที่นอน เป็นต้น จากนั้นได้เดินทักทายจับมือให้กำลังใจกับประชาชนโดยระบุขออย่ากังวลกับทรัพย์สินและบ้านเรือน ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยซ่อมแซม ส่วนคำถามที่ว่าประชาชนจะสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ตามปกติเมื่อไหร่นั้น รองแม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 3-7 วันนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ปราศรัยกับประชาชนถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงรับผู้บาดเจ็บจากเหตุสู้รบในครั้งนี้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ ที่เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ทูตไทยจ่อแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค.นี้

นิวยอร์ก 25 ก.ค.-ทูตไทยเตรียมแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค. ส่งหนังสือแจงนานาชาติ ก่อนเตรียมแจงในที่ประชุม ยันกัมพูชาวางทุ่นระเบิดและเปิดฉากยิงใส่ฐานทหารไทยที่ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ของไทยก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้ดำเนินการในส่วนของไทยทันที หลังเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (24 ก.ค.)โดยมีการส่งหนังสือออกไป 3 ฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจากไทย ให้กับนายอาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธาน UNSC ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คณะผู้แทนถาวรของสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดรับทราบด้วย ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนถาวรไทยยังได้ส่งหนังสือไปถึงนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งเหตุการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ เก็บสะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว ต่อกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทุ่นระเบิดที่พบเป็นของที่เพิ่งถูกวางใหม่ และยังมีการเกิดเหตุซ้ำแม้ว่าไทยจะมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไปก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุครั้งแรกแล้วก็ตาม จึงขอให้มีการดำเนินการสอบสวนตามข้อกำหนดในอนุสัญญา และขอให้กัมพูชาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนไทยอีกด้วย ทั้งนี้ UNSC จะจัดให้มีการประชุมฉุกเฉินแบบที่เรียกว่า private meeting ซึ่งเป็นการประชุมปิดที่ใช้เวลาราว […]

องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่ จนท.-ประชาชนได้รับผลกระทบชายแดน

อุบลราชธานี 25 ก.ค.-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินไปยังพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจุดที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี และขณะนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานในจุดที่ 1 จ.อุบลราชธานี แก่เจ้าหน้าที่จำนวน 200 ชุด มอบแก่ประชาชน 75 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ช่องบ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจุดปะทะ ชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ในหลุมหลบภัย เนื่องจากมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง ผู้นำชุมชนจึงได้ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นยังมีรายงานจากรองโฆษกกองทัพบกว่า สถานการณ์ในวันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. […]