ราชบุรี 21 ก.พ. – เกษตรกร ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ปลูกแคร์รอตแบบอินทรีย์ ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรักสุขภาพ โดยศึกษาสภาพดินมานานนับปี และทดลองปลูกจนประสบความสำเร็จ
นี่เป็นแปลงผักที่อาจจะพบเห็นได้น้อยมาก เนื่องจากค่อนข้างปลูกยาก กับสภาพพื้นดิน ต้องใช้ความรู้และการจัดการปรุงดินที่ดี โดยเกษตรกรรายนี้ทดลองปลูกแคร์รอตแบบไม่ใช้สารเคมี เป็นแคร์รอตที่ปลูกในประเทศไทย ไม่เหมือนกับแคร์รอตหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
นายภิญญา ศรีสาหร่าย อายุ 40 ปี ได้ทดลองปลูกแบบแปลงยกร่องสูง มีการปรุงดินตามสูตรของตัวเองที่คิดค้นขึ้น โดยจากการสังเกตสภาพอากาศ และดินที่ปลูก เพื่อให้แคร์รอตเจริญเติบโตได้ผลผลิตดี ใช้วิธีการหว่านเมล็ดบนแปลงที่ยกสูง ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 90-120 วัน ก็สามารถถอนด้วยมือเปล่าได้อย่างสบาย หลังจากนั้นจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนปลูกพืชผักชนิดอื่นทดแทน และจะกลับมาปลูกแคร์รอตใหม่อีกครั้งในรอบถัดไป บนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ ที่หมุนเวียนปลูกพืชผักแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี เช่น กวางตุ้ง คะน้า ผักชี หัวไชเท้า กะหล่ำดอก แตงกวา ถั่วฝักยาว ถั่วพู มะเขือเทศ และผักอีกหลายชนิด ทำให้มีรายได้ตลอดทั้งปี
นายภิญญา บอกว่า ตอนแรกที่มาอยู่ที่ ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ไม่รู้ว่าจะปลูกพืชอะไรดี ซึ่งได้ร่วมกับภรรยาใช้การทำเกษตรบนพื้นฐานข้อมูล ปลูกพืชแต่ละชนิดที่ไม่เหมือนกัน ทั้งผักใบ และแคร์รอต โดยจะบันทึกข้อมูลไว้ ต่อมาจึงรู้ว่าที่ดินนี้สามารถปลูกแคร์รอตได้ และเป็นผักที่ต้องการของตลาด ลูกค้าสั่งจอง โดยจะปลูกสายพันธุ์ของญี่ปุ่น ส่วนเคล็ดลับก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องทำฐานข้อมูลของพืชแต่ละชนิดไว้ เพื่อให้รู้ว่าควรปลูกในฤดูไหน ต้องการแร่ธาตุอาหารอะไรบ้าง
ส่วนการดูแลนั้นไม่ยุ่งยาก จะบำรุงดินใส่อินทรียวัตถุ ทำแบบอินทรีย์ มีการปรุงดินเอาปุ๋ยใบไม้จากไม้ป่ามาหมักเป็นปุ๋ย มีพวกเศษผักที่เหลือทิ้ง นำมาหมักเป็นปุ๋ยได้อีก โดยจะใส่ 1 ตารางเมตร ต่อ 3 กิโลกรัม ถ้าปลูกผักประเภทหัว จะตีแปลงยกสูงให้ดินฟูก็เจริญเติบโตดี โดยเฉพาะใบของแคร์รอตจะมีกลิ่นออกฉุนคล้ายผักชี จึงไม่ค่อยมีแมลงรบกวน ใบของแคร์รอตที่ตัดออกยังนำไปผสมทำปุ๋ยได้อีกด้วย หรือจะเก็บไปรับประทานก็ยังได้ โดยให้สังเกตที่บริเวณลำต้นและผิวดิน จะเห็นเปลือกของแคร์รอตโผล่ขึ้นมา แสดงว่าสามารถถอนหัวแคร์รอตขึ้นมาตัดเอาส่วนของใบออก นำไปทำความสะอาด จัดการแพ็กกิ้ง เตรียมส่งลูกค้าตามออเดอร์ที่สั่งไว้ ขายกิโลกรัมละ 80 บาท
ทั้งนี้ แคร์รอตเป็นที่ต้องการของคนกลุ่มคนรักสุขภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกายกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งได้รับคำแนะนำจากแพทย์ให้รับประทานน้ำแคร์รอต เนื่องจากมีสารยับยั้งเชื้อมะเร็งอยู่ในแคร์รอต เหมือนกับผักบางชนิดด้วย. – สำนักข่าวไทย