กระทรวงการคลัง 21 ก.พ.- คลังพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีคลังเอเปค “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล มุ่งสู่การเงินการคลังยั่งยืน” มุ่งจัดหาแหล่งทุนผ่านตลาดทุน
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า ในปี 2565 ประเทศไทยดำรงตำแหน่งเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค กำหนดหัวข้อหลัก “Open. Connect. Balance.” หรือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” คำนึงถึงการสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในบริบทโลกหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่เข้มแข็ง เปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุล สนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในทุกมิติผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular-Green (BCG) Economy Model
ในช่วงประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในปี 2565 นี้ กระทรวงการคลัง เตรียม จัดการประชุมภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Finance Ministers’ Process: APEC FMP) รวม 3 เวทีการประชุม ได้แก่ 1) การประชุมระดับปลัดกระทรวงการคลังและรองผู้ว่าการธนาคารกลางเอเปค (APEC Finance and Central Bank Deputies’ Meeting: APEC FCBDM) กำหนดจัดระหว่างวันที่ 16 – 17 มีนาคม 2565 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานการประชุม
2) การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการคลังเอเปค (APEC Finance Senior Officials’ Meeting: SFOM) กำหนดจัดระหว่างวันที่ 23 – 24 มิถุนายน 2565 ณ จังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นประธานการประชุม และ 3) การประชุม APEC FMM ครั้งที่ 29 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 19 – 21 ตุลาคม 2565 ณ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ สถานที่และรูปแบบของแต่ละการประชุมจะมีการพิจารณาความเหมาะสมตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อไป
สำหรับกรอบ APEC FMP ประจำปี 2565 นั้น กระทรวงการคลัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดประเด็นสำคัญ ผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล มุ่งสู่การเงินการคลังยั่งยืน” (“Advancing digitalization, Achieving sustainability”) ได้แก่
- การเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) โดยมุ่งเน้นการหาแนวทางในการจัดหาแหล่งทุนสำหรับทุกภาคส่วนเพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ โดยเฉพาะการจัดหาแหล่งทุนผ่านตลาดทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 แนวทาง ได้แก่ (1) การจัดหาแหล่งทุนของภาครัฐ การออกพันธบัตรรัฐบาล และการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน และ (2) การจัดหาแหล่งทุนเพื่อภาคเอกชน พัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างความยั่งยืน สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน เตรียมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ระดมความคิดเห็นระหว่างสมาชิก และการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเรื่องการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (Digitalization for Digital Economy) การนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ การเชื่อมโยงการชำระเงิน การระดมทุนและเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการในด้านตลาดทุน เพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกันในภูมิภาค แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ (1) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างโอกาสเข้าถึงบริการของภาครัฐ (2) การส่งเสริมเชื่อมโยงการชำระเงินในกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Payment Connectivity) และ (3) การสนับสนุน SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่าน FinTech และการส่งเสริมภาคธุรกิจในการระดมทุนผ่านตลาดทุน รวมทั้งลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการเงินข้ามพรมแดน
จากประเด็นต้องการผลักดันภายใต้กรอบ APEC FMP ในปี 2565 สมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค รวมทั้งไทย สามารถนำผลหารือผ่านหลายเวที มาปรับเป็นนโยบายหรือนำข้อเสนอแนะที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ตามบริบทของแต่ละประเทศ การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) เพื่อระดมทุนไปใช้ในโครงการพัฒนาทางด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการค้าและการลงทุน การจัดการประชุมยังก่อให้เกิดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ในช่วงการเป็นเจ้าภาพเอเปคของประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย