หนองคาย 11 ก.พ. – มิจฉาชีพชาย-หญิง ก่อเหตุที่ จ.หนองคาย ฝ่ายชายทำทีขอซื้อทองไปฝากญาติ ฝ่ายหญิงไปธนาคารเอาเช็คเข้าบัญชีร้านทอง เจ้าของร้านทองหลงเชื่อ ให้ทองรูปพรรณ 200 บาท รู้ตัวอีกทีเป็นเคลียริ่งเช็ค ตำรวจรู้ตัวแล้ว เผยเคยก่อเหตุมาก่อน เร่งล่าตัว
ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย เผยให้เห็นชายใส่เสื้อดำ สวมหน้ากากอนามัย ทำทีมาซื้อทองคำ เพื่อนำไปแจกให้ญาติพี่น้อง โดยจะมีคนโอนเงินเข้าบัญชี สักพักแจ้งกับทางร้านว่า มีคนโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว เจ้าของร้านทองได้โทรศัพท์ติดต่อกับธนาคาร ขอให้ตรวจสอบเงินเข้าบัญชี ทางธนาคารก็แจ้งว่า มีตัวเลขเงินในบัญชีแล้ว 2.9 ล้านบาท ทางร้านจึงนำทองรูปพรรณ จำนวน 200 บาท ให้กับคนร้ายไป แต่หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที เจ้าของร้านได้ตรวจสอบเงิน พบว่าเป็นการนำเงินเข้าบัญชีโดยเช็คเคลียริ่ง ทำให้รู้ตัวว่าน่าจะถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ร.ต.อ.กฤษณะ ธรรมจิตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองหนองคาย หลังรับแจ้งก็ได้เข้าตรวจสอบร้านทองที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ อ.เมืองหนองคาย พร้อม พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ต.อัครเดช พรมโสภา สวป. ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือของผู้ต้องสงสัย
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายปกปิดใบหน้า ทางร้านไม่ได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนของคนร้าย และไม่ได้ขอให้เปิดหน้าให้ทางร้านดู ซึ่งคนร้ายได้เขียนชื่อไว้ให้ทางร้าน แต่คาดว่าเป็นชื่อปลอม อีกทั้งทางร้านก็ไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์คนร้ายไว้ด้วย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปขอตรวจสอบที่ธนาคาร ในกระบวนการเคลียริ่งเช็ค ต้องมีการเปิดหน้า มีบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของบัญชีที่ไปดำเนินการเคลียริ่งแล้ว เป็นชื่อ น.ส.พิชชาภา เมื่อนำชื่อเข้าตรวจสอบพบว่า เคยมีพฤติกรรมก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวที่ จ.ระยอง เมื่อปี 2563 ขณะนี้ได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม ซึ่งรู้ตัวคนก่อเหตุ 80% แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เตือนร้านทองต่างๆ ว่า หากมีบุคคลที่ไม่คุ้นเคยมาซื้อทอง ขอให้ตรวจสอบหลักฐานให้ชัดเจน และขอดูบัตรประจำตัวประชาชน เพราะขณะนี้มิจฉาชีพอาจใช้วิธีนี้หลอกลวงชิงทรัพย์ เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมาก อาจหลงลืมตรวจสอบให้ละเอียด. – สำนักข่าวไทย