“โรม” เผย จนท.รัฐยังไม่ยืนยัน 100% ปล่อยตัว ‘ซิงซิง’ วันนี้ เชื่อเป็นไปได้ถูกเรียกค่าไถ่

รัฐสภา 87 ม.ค.-“โรม” ชี้ จนท.รัฐยังไม่ยืนยัน 100% ปล่อยตัว ‘ซิงซิง’ วันนี้ เชื่อเป็นไปได้ถูกเรียกค่าไถ่ ขณะ กมธ.มั่นคงฯ เตรียมถกเรื่องนี้ 9 ม.ค. จี้ นายกฯ เอาจริงอย่าให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหายไปมากกว่านี้ ขอรัฐบาลทำเต็มที่ ปูดเครือข่ายตู้ห่าวกลับมาแล้ว รอเลย ศึกซักฟอกจัดเต็ม

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ซิงซิงดาราชาวจีน หายตัวไปจากชายแดนไทยเมียนมาทางแม่สอด ว่า ได้พยายามตรวจสอบแหล่งข่าวในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐ ข้อมูลตรงกันว่าคอนเฟิร์มแล้วว่าถูกพาตัวไปฝั่งนั้นจริง เพียงแค่เรื่องของการระบุสถานที่ แหล่งข่าวบางส่วนก็ระบุแล้วว่าอยู่บริเวณใด เรื่องนี้พยายามเช็กอยู่ ส่วนที่มีสื่อบางที่รายงานว่าจะมีการปล่อยตัววันนี้ แต่ที่ตนเช็กมาจากเจ้าหน้าที่รัฐเบื้องต้นก็ยังไม่ถึงขนาดคอนเฟิร์ม 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็นวันนี้หรือไม่ แต่ต้องติดตามต่อและตนก็ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่


นายรังสิมันต์ คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สภาฯ ได้อภิปรายและเตือนกันหลายครั้งว่าเรื่องนี้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ต้องยอมรับว่าก่อนมีกรณีของดาราชาวจีน ก็มีกรณีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ถูกพาตัวข้ามไปทำงานและเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเป็นเวลานาน มีคนนับแสนคนที่อยู่ที่นั่น จำนวนมากถูกบังคับเป็นแรงงานทาสให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้น หากเราไม่ทำอะไรภาพลักษณ์ประเทศไทยก็จะเสียหายไปเรื่อยๆ ว่าไทยเป็นทางผ่านเกือบทั้งหมดของคนที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ว่าจะสมัครใจหรือไม่ จะต้องเดินทางผ่านประเทศไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวได้รับการติดต่อมาจากสถานทูตหลายแห่ง เพื่อขอให้ช่วยเหลือคนของประเทศเขาที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ทำสำเร็จไปด้วยความยากลำบาก แต่ต้องขอบคุณกองทัพบกที่สามารถช่วยเหลือคนโมร็อกโก และมีอีกหลายชาติที่ติดต่อมาทั้งเคนย่า ศรีลังกา และอีกหลายประเทศ ดังนั้น กรณีของดาราชาวจีนไม่ใช่กรณีแรก แต่ควรเป็นบทเรียนได้แล้วที่ประเทศเราต้องเอาจริงเอาจัง


นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นในส่วน กมธ.ความมั่นคงฯ เรานัดพิจารณาเรื่องการค้ามนุษย์แนวชายแดน โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในวันที่ 9 มกราคม หวังว่าจะมีความคืบหน้าและจะนำเรื่องนี้หารือกับกองทัพรวมถึงฝ่ายที่มีอำนาจหน้าที่ หาวิธีการที่จะช่วยเหลือ แต่ต้องยืนยันว่าวิธีการที่เรากำลังจะทำในวันที่ 9 มกราคมนี้ เราช่วยออกมาอย่างเต็มที่หน่อย อาจจะแค่หลักร้อยแต่ตัวเลขที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์อาจจะหลักแสน ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการคือระบบและการเอาจริงของรัฐบาล วันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของต่างประเทศ ประเทศไทยจะไปทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ เรื่องนี้เราไม่ควรปฏิเสธอีกต่อไป ประเทศไทยต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะเสียหายมากกว่านี้

เมื่อถามย้ำว่า กรณีของซิงซิงการข่าวระบุชัดแล้วใช่หรือไม่ว่าเป็นการเรียกค่าไถ่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ข้อมูลตรงนั้น แต่เชื่อว่าก็เป็นไปได้ในเรื่องของค่าไถ่ เพราะปกติแล้วมันจะมีเอเย่นต์ เมื่อล่อลวงและได้คนมาแล้ว เขาส่งก็จะได้เงิน ฉะนั้น ทุกคนมีค่าตัวและมีต้นทุน ดังนั้น หากอยู่ๆ คนเหล่านี้จะกลับก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนเหล่านี้จะเป็นอะไร ก็อาจจะเป็นค่าไถ่ได้ เนื่องจากเป็นวัฏจักรแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า เรื่องการปราบปรามมาเฟียชาวจีนมองว่าฝ่ายความมั่นคงทำงานช้าไปหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องตู้ห่าวที่ได้ข่าวว่ากลับมาอีกแล้ว แต่จริงเท็จอย่างไรก็ฝากหน่วยงานบ้านเมืองไปตรวจสอบ พอได้ข่าวว่าเครือข่ายตู้ห่าวกลับมาและพร้อมปฏิบัติการแล้ว ขอให้ลองไปดูที่สนามบินแม่สอดว่าคนส่วนใหญ่เป็นชาติไหน เรื่องนี้ทำกันอย่างโจ่งครึ่ม แต่เวลาที่หน่วยงานความมั่นคงจะจัดการกลับต้องรอให้เป็นข่าวก่อน ดังนั้น สิ่งที่เป็นโจทย์ให้รัฐบาลคือต้องวางแผนว่าจะทำอย่างไร วันนี้ชายแดนของเราอ่อนแอมาก สิ่งดำๆ เทาๆ ทั้งหลาย ถึงเวลาที่เราต้องทำมาตรการทั้งหลายดำเนินการได้แล้ว ตนมองว่าหากปัญหาเรื่องการฟรีวีซ่า เปิดให้ชาวจีนสามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักร หากเป็นปัญหา ตนคิดว่าหากกำหนดพื้นที่พิเศษอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนเช่นเดียวกัน


“พูดมาถึงตรงนี้ ผมไม่เห็นคุณอุ๊งอิ๊งพูดอะไรเท่าไหร่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมเห็นอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดเรื่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าตกลงแล้วรัฐบาลนี้จะเอาอย่างไร เพราะผมก็ฟังนโยบายและทิศทางต่างๆ จากนายทักษิณ หวังว่ามันจะเอาจริงเอาจังกันซะเสียที พูดมาหลายรอบแล้วเรื่องของคอลเซ็นเตอร์ และปัญหาการหลอกลวงทั้งเงินและค้ามนุษย์ ผมว่ารัฐบาลนี้ควรทำให้ได้“ นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนจะนำไปสู่การอภิปรายหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่ายังมีเวลาเตรียมการ เพราะเราไม่ไว้ใจรัฐบาลให้เป็นรัฐบาล ดังนั้นยิ่งรัฐบาลล้มเหลวในเรื่องต่างๆ มากเท่าไหร่เรื่องเหล่านั้นล้วนเป็นโอกาสให้ฝ่ายค้านสนับสนุนในการโหวตไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมปัญหา บาดแผล ความล้มเหลวทั้งหมด ดังนั้น ทุกเรื่องมีความเป็นไปได้หมด และขอยืนยันว่า การซักฟอกครั้งนี้เราเต็มที่ เราเต็มที่อย่างแน่นอน เรามีเท่าไหร่ใส่จนหมด และระหว่างที่การซักฟอกยังมาไม่ถึง เราอยากเห็นรัฐบาลใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์ ในการช่วยเหลือคนเหล่านี้ ใช้อำนาจที่ตัวเองมีในการทำให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไป ไม่ใช่มัวแต่มาตีกัน กัดกัน ขวางกัน ไม่ใช่มัวแต่มาให้พ่อเลี้ยง อย่าปล่อยให้เวลาการเป็นรัฐบาลตอนนี้เสียไป อย่าทำให้ประชาชนผิดหวังไปมากกว่านี้.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]