“โรม” เผย จนท.รัฐยังไม่ยืนยัน 100% ปล่อยตัว ‘ซิงซิง’ วันนี้ เชื่อเป็นไปได้ถูกเรียกค่าไถ่

รัฐสภา 87 ม.ค.-“โรม” ชี้ จนท.รัฐยังไม่ยืนยัน 100% ปล่อยตัว ‘ซิงซิง’ วันนี้ เชื่อเป็นไปได้ถูกเรียกค่าไถ่ ขณะ กมธ.มั่นคงฯ เตรียมถกเรื่องนี้ 9 ม.ค. จี้ นายกฯ เอาจริงอย่าให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหายไปมากกว่านี้ ขอรัฐบาลทำเต็มที่ ปูดเครือข่ายตู้ห่าวกลับมาแล้ว รอเลย ศึกซักฟอกจัดเต็ม

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ซิงซิงดาราชาวจีน หายตัวไปจากชายแดนไทยเมียนมาทางแม่สอด ว่า ได้พยายามตรวจสอบแหล่งข่าวในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐ ข้อมูลตรงกันว่าคอนเฟิร์มแล้วว่าถูกพาตัวไปฝั่งนั้นจริง เพียงแค่เรื่องของการระบุสถานที่ แหล่งข่าวบางส่วนก็ระบุแล้วว่าอยู่บริเวณใด เรื่องนี้พยายามเช็กอยู่ ส่วนที่มีสื่อบางที่รายงานว่าจะมีการปล่อยตัววันนี้ แต่ที่ตนเช็กมาจากเจ้าหน้าที่รัฐเบื้องต้นก็ยังไม่ถึงขนาดคอนเฟิร์ม 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็นวันนี้หรือไม่ แต่ต้องติดตามต่อและตนก็ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่


นายรังสิมันต์ คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สภาฯ ได้อภิปรายและเตือนกันหลายครั้งว่าเรื่องนี้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ต้องยอมรับว่าก่อนมีกรณีของดาราชาวจีน ก็มีกรณีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ถูกพาตัวข้ามไปทำงานและเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเป็นเวลานาน มีคนนับแสนคนที่อยู่ที่นั่น จำนวนมากถูกบังคับเป็นแรงงานทาสให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้น หากเราไม่ทำอะไรภาพลักษณ์ประเทศไทยก็จะเสียหายไปเรื่อยๆ ว่าไทยเป็นทางผ่านเกือบทั้งหมดของคนที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ว่าจะสมัครใจหรือไม่ จะต้องเดินทางผ่านประเทศไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวได้รับการติดต่อมาจากสถานทูตหลายแห่ง เพื่อขอให้ช่วยเหลือคนของประเทศเขาที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ทำสำเร็จไปด้วยความยากลำบาก แต่ต้องขอบคุณกองทัพบกที่สามารถช่วยเหลือคนโมร็อกโก และมีอีกหลายชาติที่ติดต่อมาทั้งเคนย่า ศรีลังกา และอีกหลายประเทศ ดังนั้น กรณีของดาราชาวจีนไม่ใช่กรณีแรก แต่ควรเป็นบทเรียนได้แล้วที่ประเทศเราต้องเอาจริงเอาจัง


นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นในส่วน กมธ.ความมั่นคงฯ เรานัดพิจารณาเรื่องการค้ามนุษย์แนวชายแดน โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในวันที่ 9 มกราคม หวังว่าจะมีความคืบหน้าและจะนำเรื่องนี้หารือกับกองทัพรวมถึงฝ่ายที่มีอำนาจหน้าที่ หาวิธีการที่จะช่วยเหลือ แต่ต้องยืนยันว่าวิธีการที่เรากำลังจะทำในวันที่ 9 มกราคมนี้ เราช่วยออกมาอย่างเต็มที่หน่อย อาจจะแค่หลักร้อยแต่ตัวเลขที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์อาจจะหลักแสน ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการคือระบบและการเอาจริงของรัฐบาล วันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของต่างประเทศ ประเทศไทยจะไปทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ เรื่องนี้เราไม่ควรปฏิเสธอีกต่อไป ประเทศไทยต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะเสียหายมากกว่านี้

เมื่อถามย้ำว่า กรณีของซิงซิงการข่าวระบุชัดแล้วใช่หรือไม่ว่าเป็นการเรียกค่าไถ่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ข้อมูลตรงนั้น แต่เชื่อว่าก็เป็นไปได้ในเรื่องของค่าไถ่ เพราะปกติแล้วมันจะมีเอเย่นต์ เมื่อล่อลวงและได้คนมาแล้ว เขาส่งก็จะได้เงิน ฉะนั้น ทุกคนมีค่าตัวและมีต้นทุน ดังนั้น หากอยู่ๆ คนเหล่านี้จะกลับก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนเหล่านี้จะเป็นอะไร ก็อาจจะเป็นค่าไถ่ได้ เนื่องจากเป็นวัฏจักรแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า เรื่องการปราบปรามมาเฟียชาวจีนมองว่าฝ่ายความมั่นคงทำงานช้าไปหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องตู้ห่าวที่ได้ข่าวว่ากลับมาอีกแล้ว แต่จริงเท็จอย่างไรก็ฝากหน่วยงานบ้านเมืองไปตรวจสอบ พอได้ข่าวว่าเครือข่ายตู้ห่าวกลับมาและพร้อมปฏิบัติการแล้ว ขอให้ลองไปดูที่สนามบินแม่สอดว่าคนส่วนใหญ่เป็นชาติไหน เรื่องนี้ทำกันอย่างโจ่งครึ่ม แต่เวลาที่หน่วยงานความมั่นคงจะจัดการกลับต้องรอให้เป็นข่าวก่อน ดังนั้น สิ่งที่เป็นโจทย์ให้รัฐบาลคือต้องวางแผนว่าจะทำอย่างไร วันนี้ชายแดนของเราอ่อนแอมาก สิ่งดำๆ เทาๆ ทั้งหลาย ถึงเวลาที่เราต้องทำมาตรการทั้งหลายดำเนินการได้แล้ว ตนมองว่าหากปัญหาเรื่องการฟรีวีซ่า เปิดให้ชาวจีนสามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักร หากเป็นปัญหา ตนคิดว่าหากกำหนดพื้นที่พิเศษอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนเช่นเดียวกัน


“พูดมาถึงตรงนี้ ผมไม่เห็นคุณอุ๊งอิ๊งพูดอะไรเท่าไหร่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมเห็นอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พูดเรื่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าตกลงแล้วรัฐบาลนี้จะเอาอย่างไร เพราะผมก็ฟังนโยบายและทิศทางต่างๆ จากนายทักษิณ หวังว่ามันจะเอาจริงเอาจังกันซะเสียที พูดมาหลายรอบแล้วเรื่องของคอลเซ็นเตอร์ และปัญหาการหลอกลวงทั้งเงินและค้ามนุษย์ ผมว่ารัฐบาลนี้ควรทำให้ได้“ นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนจะนำไปสู่การอภิปรายหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่ายังมีเวลาเตรียมการ เพราะเราไม่ไว้ใจรัฐบาลให้เป็นรัฐบาล ดังนั้นยิ่งรัฐบาลล้มเหลวในเรื่องต่างๆ มากเท่าไหร่เรื่องเหล่านั้นล้วนเป็นโอกาสให้ฝ่ายค้านสนับสนุนในการโหวตไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมปัญหา บาดแผล ความล้มเหลวทั้งหมด ดังนั้น ทุกเรื่องมีความเป็นไปได้หมด และขอยืนยันว่า การซักฟอกครั้งนี้เราเต็มที่ เราเต็มที่อย่างแน่นอน เรามีเท่าไหร่ใส่จนหมด และระหว่างที่การซักฟอกยังมาไม่ถึง เราอยากเห็นรัฐบาลใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์ ในการช่วยเหลือคนเหล่านี้ ใช้อำนาจที่ตัวเองมีในการทำให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไป ไม่ใช่มัวแต่มาตีกัน กัดกัน ขวางกัน ไม่ใช่มัวแต่มาให้พ่อเลี้ยง อย่าปล่อยให้เวลาการเป็นรัฐบาลตอนนี้เสียไป อย่าทำให้ประชาชนผิดหวังไปมากกว่านี้.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย