fbpx

วอนรถบรรทุกเข้าใจรัฐบาล ยุติชุมนุม

ทำเนียบรัฐบาล 7 ก.พ.-โฆษกรัฐบาล วอนม็อบรถบรรทุก 7-8 ก.พ.นี้ เข้าใจรัฐบาล หากไม่ตรึงราคาพลังงานไว้ราคาดีเซลอาจพุ่งสูงกว่านี้ถึง 34 บาท/ลิตร ย้ำ “นายกฯ” เน้นดูแลประชาชนภาพใหญ่


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยประกาศจะจัดกิจกรรมรวมทัพรถใช้น้ำมันแพงวิ่งรถทั่วกรุงเทพฯ เพื่อแสดงพลังและขับไล่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกจากตำแหน่งวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2565 ว่ารัฐบาลเข้าใจทุกปัญหาและตรึงราคาพลังงานไว้ ขอให้เข้าใจสถานการณ์ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเรา ราคาน้ำมันวันนี้ส่วนใหญ่เกิน 30 บาท/ลิตร หรือใกล้เคียง

“มีปัจจัยหลายอย่างเช่นคุณภาพแต่ละประเภทอาจมีความแตกต่างกัน ยกเว้นประเทศมาเลเซียซึ่งมีการผลิตน้ำมันในประเทศ เกินความต้องการในประเทศ ถ้ารัฐบาลไม่ตรึงราคาพลังงานไว้ วันนี้ ราคาขายดีเซลที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ อาจถึง 34 บาท/ ลิตร หากทำตามที่เรียกร้องเดิมที่ 25 บาท/ลิตร จะต้องใช้เงินสนับสนุนถึงเดือนละ 20,000 ล้านบาท ปีละ 240,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินกว่าจะแบกรับไว้ได้  ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีเน้นดำเนินนโยบายต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาด หรือสร้างภาระงบประมาณในอนาคต”  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้นโยบาลดูแลระดับราคาพลังงานให้เหมาะสม เน้นดูแลประชาชนในภาพใหญ่  ลดผลกระทบต่อธุรกิจให้มากที่สุด ที่ผ่านมารัฐบาลและกระทรวงพลังงานใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ด้วยการตรึงราคาค่าการตลาด และราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร  ซึ่งผู้ประกอบการภาคธุรกิจส่วนใหญ่รวมทั้งประชาชนเข้าใจดีว่า ราคาพลังงานและน้ำมันโลกทุกวันนี้ เป็นไปตามกลไกตลาดเสรี  และราคาพลังงานในประเทศทุกวันนี้ ผู้ประกอบขนส่งยังสามารถประกอบธุรกิจและสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทย ณ ขณะนี้.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย