31 มกราคม 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Factcheck.org (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ
ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ
บทสรุป:
- สายพันธุ์ไวรัสโควิด 19 ที่ระบาดในลาตินอเมริกาแตกต่างจากไวรัสเดลต้าที่ระบาดในสหรัฐฯ
- ปัจจัยที่ทำให้สหรัฐฯ เผชิญการแพร่ระบาดมาจากการแพร่เชื้อจากผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนและละเลยมาตรการโควิด 19
ข้อมูลที่ถูกแชร์:
มีข้อมูลเท็จเผยแพร่จากผลสำรวจที่จัดทำโดยมูลนิธิ Kaiser Family Foundation ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่ามีชาวอเมริกันผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันถึง 55% คิดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในสหรัฐฯ มีต้นเหตุจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ
FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:
สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างหนักในช่วงฤดูร้อนปี 2021
ข้อมูลจากหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าสหรัฐฯ พบยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 12,000 คนเมื่อเดือนมิถุนายน เป็น 160,000 คนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนปี 2021
สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนต่างด้าวที่ลักลอบข้ามแดนทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ โดยจำนวนคนต่างด้าวข้ามพรมแดนเพิ่มจาก 75,000 คนเมื่อเดือนมกราคม เป็น 200,000 คนในเดือนกรกฎาคมปี 2021 ตามรายงานจากหน่วยงานศุลกากรและตรวจรักษาความปลอดภัยชายแดนแห่งสหรัฐอเมริกา
แต่การเชื่อมโยงว่าคนต่างด้าวคือสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในสหรัฐฯ เป็นการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริง
ดร.แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIAID) ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNN เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2021 ว่า คนต่างด้าวไม่ใช่ต้นเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในสหรัฐฯ การที่ชาวอเมริกันเสียชีวิตกว่า 7 แสนคน และติดเชื้อไปกว่า 34 ล้านคนในเวลานั้น เป็นเพราะปัญหาที่เกิดจากคนในชาติ ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วโลก
ความเห็นของดร.แอนโทนี เฟาชี สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญหลายราย
เอ็มมา ฮอดคราฟท์ นักวิจัยหลังปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย University of Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ร่วมพัฒนา Nextstrain เว็บไซต์ติดตามการแพร่ระบาดของไวรัส ชี้แจงว่า ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสเดลต้า แพร่ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโกหรือประเทศในแถบลาตินอเมริกา นอกจากนี้ไวรัสเดลต้ายังไม่ใช่สายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศเหล่านั้น สายพันธุ์ที่ระบาดในเม็กซิโกถึงช่วงเดือนพฤษภาคมได้แก่ 20B/S.732A, ส่วนสายพันธุ์แกมม่าและแลมด้าพบการระบาดในประเทศเปรู, อาร์เจนติน่า และชิลี, พบการระบาดของสายพันธุ์แกมม่าในบราซิล และพบการระบาดของสายพันธุ์มิวในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่ระบาดอย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ
ในทางตรงกันข้าม สายพันธุ์ที่ระบาดในสหรัฐฯ อย่างเดลต้า มีที่มาจากสหราชอาณาจักรและอินเดีย ซึ่งเหตุผลที่ประเทศในลาตินอเมริกาได้รับผลกระทบจากไวรัสเดลต้าช้ากว่าหลายประเทศ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการติดต่อกับสหราชอาณาจักรและอินเดียค่อนข้างต่ำ
ดร.มิเชล ไฮสเลอร์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ องค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชน (Physicians for Human Rights) และศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัย University of Michigan อธิบายว่าไม่พบหลักฐานในเชิงระบาดวิทยาที่บ่งชี้ว่า การอพยพเข้าประเทศในเขตแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสเดลต้าหรือสายพันธุ์ใดๆ ในสหรัฐฯ
เมื่อตรวจสอบบริเวณที่พบการแพร่เชื้อโควิด 19 อย่างสูงในสหรัฐฯ จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ มักอยู่ในเขตชนบทที่ห่างไกลจากชายแดนและมีคนต่างด้าวอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย ส่วนรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีเขตแดนติดกับประเทศเม็กซิโก กลับพบการติดเชื้อที่ต่ำมาก นอกจากนี้ข้อมูลในเชิงระบาดวิทยายังพบว่าไวรัสเดลต้าแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ก่อนเม็กซิโกและประเทศในแถบลาตินอเมริกาเสียอีก
รายงานจากสำนักข่าว New York Times เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2021 พบว่าแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด 19 ต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากรัฐคอนเนตทิคัต โดยอัตราการติดเชื้อต่อวันในรอบสัปดาห์ของแคลิฟอร์เนียอยู่ที่ 16 คนต่อประชากร 100,000 คน
นอกจากนี้ องค์การอนามัยทวีปอเมริกา (PAHO) ยังสรุปว่า การแพร่ระบาดของไวรัสเดลต้าในเม็กซิโก มีสาเหตุจากการแพร่เชื้อจากฝั่งสหรัฐฯ อีกด้วย
ดร.มิเชล ไฮสเลอร์ ย้ำว่าคนต่างด้าวกลายเป็นแพะรับบาปในข้อหาทำให้สหรัฐฯ เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทั้งๆ ที่หลักฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือต่างยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำคือสาเหตุการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และต้นเหตุการแพร่ระบาดมาจากคนที่ไม่ฉีดวัคซีน ทั้งหมดเป็นปัญหาด้านสาธารณสุข ไม่ใช่ปัญหาด้านการข้ามแดน เจ้าหน้าที่ของรัฐที่พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้คนต่างด้าวว่าเป็นเหมือนพาหะนำโรคจากแนวคิดหวาดกลัวชาวต่างชาติและแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ ควรหันไปกระตุ้นอัตราการฉีดวัคซีนของคนในชาติและปรับปรุงจิตสำนึกด้านด้านสาธารณสุขในชุมชนของพวกเขา
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.factcheck.org/2021/10/scicheck-migrants-not-responsible-for-latest-covid-19-surge/
- หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
- LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
- FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
- Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
- IG :: https://instagram.com/SureAndShare
- Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
- TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter