กรุงเทพฯ 24 ม.ค.-ธปท. เผย อาจยอมให้ “Stablecoin” ใช้ชำระสินค้าบริการได้ เล็งออกเกณฑ์กำกับฯในเร็วๆนี้ ครอบคลุมสถาบันการเงินลงทุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
นายณพงศ์ธวัช โพธิกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ไม่สนับสนุนการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางการชำระราคาค่าสินค้าและบริการ(Means of Payment) เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน เสถียรภาพระบบการเงิน และความเสียหายแก่สาธารณชน เพราะความสำคัญของสื่อการชำระเงิน (Means of Payment) จะต้องสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้การซื้อขายสินค้าและบริการดำเนินได้อย่างคล่องตัวกว่าการแลกผ่านระบบของแลกของ (barter trade) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางส่วนใหญ่ของธนาคารกลางหลายประเทศ ที่มองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนเปลี่ยนแปลงได้ เป็นห่วงว่าสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน แต่อย่างไรก็ดีบางธนาคารกลางอาจจะไม่ได้ปิดตายทุกประตู เพราะมีเปิดให้ลงทุนได้แบบบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ที่เปิดโอกาสแต่ก็มีการจำกัดอยู่
ทั้งนี้มุมมองต่อสินทรัพย์ดิจิทัลบางตัวก็อาจสามารถนำมาใช้ในการชำระสินค้าและบริการได้ เช่น stablecoin หรือเหรียญที่มีมูลค่าหนุนหลัง เช่นมีเงิน สินทรัพย์ หรือเทคโนโลยีที่หนุนหลังอยู่ ซึ่งเงินตราที่มีมูลค่าหนุนหลังหากจะเปิดให้ทำได้ก็ไม่ต่างกับ e money เพราะมีสินทรัพย์หนุนหลังอยู่เหมือนกัน โดยเป็นทิศทางที่หลายประเทศมุ่งไปทางเดียวกัน
“มุมมองต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของหลายประเทศมีทั้งเปิดกว้างรับให้เป็นเงินสกุลหนึ่งไปเลย เช่น เอลซัลวาดอร์ หรือ ปิดตายแบบประเทศจีน หรือกลางๆที่ไม่เปิดและไม่ปิด สำหรับธปท.ถือว่าอยู่กลางๆ ธปท.ยังมีความเป็นห่วงสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และไม่สนับสนุนให้นำมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ แต่สินทรัพย์ดิจิทัลมีหลายประเภทมากๆ หากเจาะลงบางประเภทอาจจะให้ใช้ได้ เช่น กลุ่ม Stablecoin เป็นทางเลือกที่พิจารณาอยู่ หากบางประเภทดูแลความเสี่ยงที่เหมาะสมได้อาจจะพิจารณาการอนุญาตเพิ่มเติม”นายณพงศ์ธวัช กล่าว
อย่างไรก็ตาม มุมมองของธปท.ในเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางในหลายประเทศ เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไหนจะลงมือทำก่อนหรือทำหลัง โดยในเร็วๆนี้ธปท.จะมีเกณฑ์กำกับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลในภาพรวม ทั้งเรื่องของกำกับการนำมาใช้ในการชำระสินค้าและบริการ รวมทั้งการกำกับสถาบันการเงินที่เริ่มเห็นว่ามีการให้บริษัทในกลุ่มไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย.-สำนักข่าวไทย