ปศุสัตว์ลุยตรวจห้องเย็น 10 แห่งในสมุทรสาคร อายัดเนื้อหมูกว่า 500 ตัน

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ ชุดเฉพาะกิจฯ ปศุสัตว์ร่วมกับ ปคบ. ระดมตรวจห้องเย็น 10 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร อายัดเนื้อหมูกว่า 500 ตัน เพื่อตรวจสอบ


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ กองสารวัตรและกักกัน สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาครร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบการกักตุนซากสุกรในห้องเย็น ผลการตรวจสอบพบว่า ห้องเย็นแห่งหนึ่งมีเนื้อสุกรแช่แข็งจัดเก็บ ซึ่งแจ้งต่อกรมการค้าภายในไว้ 929 ตัน แล้วเคลื่อนย้ายเนื้อสุกรไปแล้ว ยังปลายทางนครปฐมและราชบุรี แต่ไม่พบการออกเอกสารเคลื่อนย้ายเนื้อสุกรออกจากห้องเย็น กว่า 400 ตัน ทั้งนี้เนื้อสุกรดังกล่าวที่รับฝากมาจากบริษัทแห่งหนึ่งย่านราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี กรุงเทพฯ และจากแหล่งอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังพบส่วนที่ยังไม่ได้เเจ้งกับกรมการค้าภายในอีก 234 ตัน เป็นของบริษัท A แห่งหนึ่งจากราชบุรีที่นำมาฝากเมื่อเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2564 โดยบริษัทดังกล่าวยังไม่เคยเบิกสินค้าออก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติของสินค้าที่ฝากเก็บซึ่งระบุชื่อสินค้าเป็น “สันนอกติดปีก” โดยห้องเย็นจัดเก็บเป็นสินค้าไก่ ทั้งที่เป็น “เนื้อสุกร” โดยสินค้าส่วนนี้ไม่สามารถแสดงเอกสารเคลื่อนย้าย 71 ตันได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงอายัดสินค้าไว้ก่อนทั้งหมด หากสามารถนำเอกสารมาแสดงได้ จึงจะถอนอายัด โดยกำหนดให้บริษัท A นำเอกสารมาแสดงและชี้แจงภายในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.)


ต่อมาเข้าตรวจสอบห้องเย็นอีกแห่งหนึ่ง พบเอกสารเคลื่อนย้ายซากสัตว์ แต่ไม่พบเนื้อสัตว์เข้าฝากในห้องเย็น โดยจำนวนที่ระบุในเอกสาร 283 ตัน จึงได้สอบถามถึงสถานที่จัดเก็บเนื้อสัตว์ดังกล่าว จากนั้นจึงได้ตามสอบไปยังห้องเย็นอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บเพิ่มเติมของห้องเย็นที่พบเอกสาร แต่ไม่มีสินค้าจัดเก็บ พบว่า มีการนำซากสุกรจากบริษัท B และบริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ตรวจพบจากห้องเย็นข้างต้นกว่า 441 ตัน มาจัดเก็บไว้ที่ห้องเย็นนี้ โดยไม่พบเอกสารเคลื่อนย้าย และไม่ได้แจ้งการกักตุนสินค้าให้กรมการค้าภายในทราบ

จากการตรวจสอบพบมีซากสุกร พบว่า เป็นของบริษัท A มาจัดเก็บที่ห้องเย็นนี้ 158 ตัน และบริษัท B ไปจัดเก็บ 283 ตัน ตรวจสอบไม่พบเอกสารการเคลื่อนย้ายไปห้องเย็นดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดซากสุกร 441 ตันทั้งหมด และแจ้งให้บริษัท A และ B นำเอกสารการเคลื่อนย้ายและหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาแสดงภายในวันพรุ่งนี้เช่นกัน หากไม่สามารถนำมาแสดงได้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเนื่องจากอาจมีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกรเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่