กรุงเทพ 12 ม.ค. – หอการค้าไทยเผยดัชนีความสามารถการแข่งขันเอสเอ็มอีไตรมาส 4/59 ทรงตัว แต่ผู้ประกอบการยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจปีนี้จะฟื้นตัว ส่งผลให้ธุรกิจน่าจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ประเมินเบื้องต้นกระทบจีดีพีประเทศเพียงร้อยละ 0.1
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจเอสเอ็มอีไตรมาส 4/2559 ในภาคการค้า การบริการ และการผลิต 1,268 ตัวอย่าง พบว่า ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 48.4 ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 เนื่องจากสภาพคล่อง ยอดขาย และรายได้ ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ปี 2559 ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังมีความกังวลต่อต้นทุนต่อหน่วยที่ยังสูงขึ้นแต่กลับไม่มีอำนาจในการตั้งราคา
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้จะฟื้นตัวอย่างแน่นอน ตามสัญญาณเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับความสามารถในการทำธุรกิจทั้งการเข้าหาแหล่งเงินทุนและการเพิ่มศักยภาพของพนักงาน รวมทั้งการลงทุนด้านไอทีที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจปีนี้มากที่สุด ทำให้คาดว่าดัชนีความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไตรมาสแรกของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48.5 และจะดีขึ้นต่อเนื่องจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี ทำให้คาดว่าธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้
ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อภาวะเศรษฐกิจของเอสเอ็มอีปีนี้ นอกเหนือจากตัวเลขการส่งออกที่เริ่มกลับมาขยายตัวเป็นบวก การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อของเกษตรกรดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอนจากนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐคนใหม่ การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในหลายประเทศ การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งสัดส่วนภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
ส่วนปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ประเมินในเบื้องต้นว่ามีมูลค่าความเสียหายทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน ทางรถไฟ สะพานและบ้านเรือน รวม 22,365 ล้านบาท กระทบต่อเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ในพื้นที่ภาคใต้ลดลงเหลือร้อยละ 2 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.2 หากรัฐบาลเร่งการฟื้นฟูและเยียวยาจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่กลับมาได้รวดเร็ว แต่สัดส่วนจีดีพีของพื้นที่ภาคใต้คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 8.6 ของจีดีพีทั้งประเทศ ทำให้กระทบต่อจีดีพีภาพรวมทั้งประเทศ เพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น ทำให้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.6 ตามเดิม.-สำนักข่าวไทย