เอกชน-นักวิชาการ มองเปลี่ยนตัวนายกฯ ผลกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – นักวิชาการและภาคเอกชน ระบุหากผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญออกมานายกฯ เศรษฐา ไปต่อหรือถูกตัดสิทธิไม่อยากเห็นถึงขั้นยุบสภาฯ แต่พรรคการเมืองต้องนำบุคคลที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ เข้ามาแล้วเร่งขับเคลื่อนทุกแนวทางให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตและความเป็นเอกภาพของนโยบายจะต้องชัดเจนยิ่งขึ้น


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อตัวนายกรัฐมนตรี หากออกมาได้ไปต่อสิ่งที่นายกฯ เศรษฐา จะต้องเร่งขับเคลื่อนทุกแนวทางให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อเรียกความเชื่อมั่นการค้า การลงทุนรวมถึงแนวทางต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ให้เห็นผลโดยเร็ว โดยเฉพาะมาตรการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน แต่หากนายกรัฐมนตรีถูกตัดสิทธิและไม่ได้ไปต่อ ก็ต้องมาดูว่ารองนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์จะดำเนินการอย่างไร แต่หากรองนายกรักษาการณ์สามารถยุบสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็เห็นว่าจะไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ เห็นว่าพรรคแกนนำคือพรรคเพื่อไทยอาจจะต้องนำบุคคลในพรรคที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ถึง 2 คน เลือกให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อรักษาสิทธิโครงการดิติทัลวอลเล็ตและแนวนโยบายอื่นๆ ไว้ที่จะเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าและไม่หยุดชะงักไป ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างมากโดยไม่ต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่จะทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอไปอีกเป็นปีได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เศรษฐา โดยเศรษฐกิจไทยจะเติบโตหลังมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิดขึ้นในช่วงปลายปีอยู่ที่ร้อยละ 2.6-2.8 และปี 68 อยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.5 ได้ แต่หากยุบสภาและเลือกตั้งใหม่คงต้องประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง


นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะออกมาบวกหรือลบ หรือยังมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรักษาการณ์หรือไม่ โดยรวมภาพคงไม่กระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดต่างประเทศทั่วโลกในปี 67 นี้แน่นอน เนื่องจากตลาดโลกยังมีความต้องการสินค้าไทยอยู่เป็นจำนวนมากและยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ดังนั้น สิ่งที่ภาคเอกชนโดยเฉพาะขนส่งทางเรืออยากเห็นคือความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพและดำเนินนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องได้ โดยเป็นแผนการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน การขนส่ง และการต่างประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันจะทำให้เศรษฐกิจไทยและประเทศไทยจะได้รับความสนใจจากต่างประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงมองว่าไม่ว่าใครหรือพรรคการเมืองใดเข้ามาบริหารประเทศจะต้องมีแผนหรือยุทธศาสตร์ต่อการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นแผนเดียวกัน โดยปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการค้า การลงทุน การขนส่งระหว่างประเทศมีควมาเชื่อมโยงกัน จึงอยากฝากให้ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศจะต้องวางแนวทางทั้งภาครัฐและเอกชนควรดำเนินนโยบายไปในทิศทางเดียวกัน. -514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สะพานยกระดับกำลังก่อสร้าง ถล่มทับด่วนระดับที่ 1 ตายแล้ว 5

สะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง ที่กำลังก่อสร้าง พังถล่มทับด่วนระดับที่ 1 เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 5 ราย บาดเจ็บ 27 คน เร่งคนหาผู้สูญหาย พร้อมปิดทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครชั่วคราว

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ

รัฐบาลเตรียมแผนถวายความสะดวกในหลวง-ราชินี เตรียมเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

อากาศเย็นหลงฤดู

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ เตือนอากาศเย็นหลงฤดู 16-20 มี.ค.นี้ อีสานลดฮวบ 5-8 องศาฯ ภาคอื่นๆ ลดลง 2-4 องศาฯ ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้เรือนำนักท่องเที่ยวดำน้ำเกาะเต่า สูญหาย 1 คน

ระทึกกลางทะเล หนีตายวุ่น ไฟไหม้เรือพานักท่องเที่ยวดำน้ำเกาะเต่า เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและลูกเรือ พบว่ายังสูญหาย 1 คน

เยาวชนแหกสถานพินิจ พยายามพังรั้วชาวบ้าน

ชาวบ้านแตกตื่น กลุ่มเยาวชนนับสิบคนปีนรั้วแหกสถานพินิจโคราช ถือเหล็กแป๊บเป็นอาวุธ พยายามเข้าบ้านเรือนประชาชน หวังขโมยมอเตอร์ไซค์ ก่อนถูกรวบ

เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 เหตุคานสะพานก่อสร้างถล่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นรายที่ 6 เหตุคานสะพานก่อสร้างถล่ม ช่วงด่านฯ ดาวคะนอง เป็นคนงานก่อสร้างชาวเมียนมา ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิต นิมนต์พระมาเชิญดวงวิญญาณในที่เกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปรับศพที่ รพ.ศิริราช