กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการทำงานของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) พร้อมเยี่ยมชมระบบบริหารจราจรทางอากาศใหม่ที่จะเริ่มใช้ต้นปี 2561 โดยกล่าวว่า จากรายงานปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น พบว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ส่วนไทยมีอัตราการเติบโตของเที่ยวบินสูงถึงร้อยละ 10 โดยปี 2559 ไทยมีเที่ยวบินกว่า 990,000 เที่ยวบิน คาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564) จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านเที่ยวบิน อีก 10 ปี (ปี 2570 ) จะขยับขึ้นเป็น 2 ล้านเที่ยวบิน และเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านเที่ยวบินในอีก 20 ปีข้างหน้า ทำให้ บวท. ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศต้องเพิ่มศักยภาพการรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บวท.ใช้งบกว่า 3,000 ล้านบาท ยกเครื่องระบบจัดจราจรทางอากาศใหม่ทั้งหมดให้เป็นระบบที่ทันสมัย เพิ่มการควบคุมจราจรด้วยระบบอัตโนมัติมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ระบบถูกติดตั้งเรียบร้อยอยู่ระหว่างทดลองใช้งานและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะเริ่มใช้ระบบใหม่นี้ต้นปี 2561 ซึ่งจะช่วยรองรับปริมาณจราจรทางอากาศได้ถึง 1.5 ล้านเที่ยวบิน
ขณะเดียวกันมีแผนใช้งบลงทุน 14,453 ล้านบาท ลงทุนระบบเพิ่มต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพระบบบริหารจราจรทางอากาศให้รองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ NATS-UK แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและข้อคิดเห็นในการพัฒนาระบบบริหารจราจรทางอากาศ เพื่อยกระดับระบบของไทย ทั้งข้อกฎหมาย เทคโนโลยี และวิธีการทำงาน ให้เทียบเท่ากับสนามบินฮีทโธรว์ ของอังกฤษ ที่สามารถรองรับเที่ยวบินได้ถึง 2.7 ล้านเที่ยวบิน ซึ่งคาดว่าแผนทั้งหมดจะเสร็จภายในปี 2561 และมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย