ชาวบ้านฝั่งไทยเครียด! หวั่นลูกระเบิดตกบ้าน สถานการณ์เมียนมาปะทะ จ.ตาก

ตาก 28 ธ.ค.- เร่งเคลื่อนย้ายชาวกะเหรี่ยงกว่าพันคนที่หนีภัยสู้รบชุดสุดท้ายไปรวมกับชุดอื่นๆ ที่ท่าคอกวัวมหาวันเมยโค้ง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ขณะที่ชาวบ้านแนวชายแดนอำเภอแม่สอดเริ่มเครียดหลังการสู้รบยืดเยื้อ หวั่นลูกระเบิดข้ามชายแดนมาตกที่บ้าน 


สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารกองทัพเมียนมากับทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ซึ่งใช้อาวุธหนักสู้รบกันอย่างหนักมานานกว่าสองสัปดาห์ และเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น หลังกองทัพทหารเมียนมาเปิดปฎิบัติการทางอากาศยิงถล่มฐานที่มั่นของกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ภายในหมู่บ้านแม่ทอดตะเล จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา  ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเสียงปืนเงียบลง กระทั่งประมาณ 10.00 น. เริ่มมีการปะทะกันอย่างหนักอีกครั้ง โดยผลการยิงปะทะเมื่อวาน ทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บหลายนาย และมีรายงานว่าทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูเสียชีวิตจากการปะทะเบื้องต้น 2 คนส่วนทหารเมียนมามีผู้เสียชีวิตที่มากกว่าจากการถูกซุ่มโจมตี 

นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านถูกลูกหลงจากสะเก็ดระเบิดและกระสุนปืนจากการยิงปะทะจำนวน 3 คน ซึ่งทั้งสามบาดเจ็บสาหัสถูกลำเลียงข้ามแม่น้ำเมยมาขอความช่วยเหลือจากทีมกู้ชีพตำบลพระธาตุผาแดง และทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอดต้องนำรถพยาบาลมารอรับตัว ตามหลักการช่วยเหลือสากลช่วงภัยสงคราม


ขณะที่ผลกระทบจากการสู้รบตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ชาวกะเหรี่ยงในหลายหมู่บ้านต้องหนีตายข้ามแม่น้ำเมย มาขอหลบภัยสงครามชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัยที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดจัดไว้รองรับ ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด เคลื่อนย้ายชาวกะเหรี่ยงจำนวน 1,015 คน ที่พักอยู่ในพื้นที่แรกรับชั่วคราวบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง หมู่ที่ 9 ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นผู้หนีภัยชุดสุดท้ายที่หนีข้ามมาเมื่อสองวันก่อน ไปพักในพื้นที่ปลอดภัย ท่าคอกวัวเมยโค้งมหาวัน หมู่ที่ 9 ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด รวมกับผู้หนีภัยคนอื่นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมดูแลทั้งทางด้านเสบียงอาหาร และสาธารณสุขหลังพบว่าผู้หนีภัยหลายคนมีอาการเจ็บป่วยทั้งไข้หวัดและท้องเสีย

ส่วนผลกระทบของชาวบ้านฝั่งชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งได้รับผลกระทบทางอ้อมทุกหมู่บ้านตลอดแนวชายแดนอำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ทางทหารเข้าช่วยขุดหลุมหลบภัยชั่วคราวให้กับชาวบ้านหลังมีกระสุนปืนไม่ทราบฝ่าย ทั้งกระสุนปืนวิถีโค้งและลูกจรวดอาร์พีจี ลอยข้ามมาตกฝั่งหมู่บ้านแนวชายแดนทั้งสองอำเภอจนชาวบ้านหวั่นความไม่ปลอดภัย 

นางประยูร แว่นจันลา อายุ 45 ปีชาวบ้านแม่กุหลวง ซึ่งมีบ้านติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา เล่าว่าตนเองและคนในหมู่บ้านรู้สึกเครียดกับสถานการณ์สู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน เสียงระเบิดตกใกล้บ้านของตนเองจนบ้านสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหว และทุกครั้งตนเองและเพื่อนบ้านต่างต้องรีบออกจากบ้านไปหลบภัยในพื้นที่ปลอดภัยและอยากให้สถานการณ์การสู้รบจบเร็ววัน ชาวบ้านสองฝั่งประเทศจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก