กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – กรมชลประทานระดมเครื่องสูบน้ำเพิ่ม รอรับฝนหนักรอบใหม่ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะมีฝนตกหนักภาคใต้ 18 – 22 ม.ค. 60
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นวันที่ 17 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนวันที่ 18-22 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างมากได้มอบหมายให้กรมชลประทานเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งเพิ่มจากของเดิมที่มีอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักรอบใหม่
ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพฝนในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ต่าง ๆ วันที่ 16 – 17 มกราคม ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่มาก วัดปริมาณฝนสูงสุดในพื้นที่ต่าง ๆ สุราษฎร์ธานี 34 มิลลิเมตร ตรัง 73 มิลลิเมตร นครศรีธรรมราช 31 มิลลิเมตร ปัตตานี 25 มิลลิเมตร และนราธิวาส 26 มิลลิเมตร แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีแนวโน้มว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้จนกว่าจะถึงวันที่ 20 มกราคมนี้
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสงขลา ซึ่งกรมชลประทานยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนครศรีธรรมราช น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ปัจจุบันลดลงเหลือ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่ท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการระบายน้ำต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้งประมาณ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนสุราษฎร์ธานี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี บริเวณ อ.พระแสง ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว แต่ระดับน้ำ อ.เคียนซา ยังสูงกว่าตลิ่ง 1 เมตร แนวโน้มทรงตัวลดลง คาดว่าจะลดต่ำกว่าตลิ่งวันที่ 20 มกราคม เนื่องจากฝนตกลงมาทางตอนบนของลุ่มน้ำ ส่วน อ.พุนพิน ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 21 เซนติเมตร เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนบางช่วงเวลา ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม
ทั้งนี้ นอกจากเครื่องสูบน้ำที่ได้ทำการติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเร่งระบายน้ำไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมายังจัดส่งเครื่องสูบน้ำจากส่วนกลางลงไปเพิ่มอีก 40 เครื่อง รวมกับเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่รวม 279 เครื่อง ปฏิบัติงานอยู่ 143 เครื่อง สำรองไว้พร้อมปฏิบัติงาน 136 เครื่อง เพื่อเสริมศักยภาพการระบายน้ำและเตรียมพร้อมรอรับฝนตกหนักรอบใหม่ พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในภาคใต้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย