อัมสเตอร์ดัม 20 พ.ย. – กลุ่มผู้ก่อการจลาจลในเมืองท่าร็อตเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์จุดไฟเผารถยนต์และขว้างก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตอบด้วยการการใช้น้ำฉีดสกัดและยิงเตือน ในขณะที่การประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ควบคุมการระบาดของโควิด-19 ลุกลามกลายเป็นเหตุรุนแรงในคืนวันศุกร์
โฆษกหญิงของตำรวจเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า ตำรวจยิงเตือนและมีการยิงโดยตรงไปที่กลุ่มผู้ประท้วงด้วยเนื่องจากสถานการณ์อยู่ในภาวะที่เป็นภัยคุกตามถึงชีวิต เธอกล่าวว่า เท่าที่ทราบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการยิงเตือน แต่จำเป็นต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บดังกล่าว บางคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อภาพถ่ายของบุคคลที่ถูกระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง แต่ตำรวจกล่าวหลังจากเห็นภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกไว้แล้วว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร ประชาชนหลายร้อยคน รวมตัวกันเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับที่รัฐบาลมีแผนการที่จะจำกัดการใช้สถานที่ในร่มเฉพาะผู้ที่มีบัตรผ่านที่เรียกว่า “โคโรนา พาส” ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงว่า ได้รับวัคซีนครบแล้วหรือหายจากอาการป่วยจากโควิด-19 แล้ว บัตรผ่านนี้ยังออกให้กับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นลบ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองร็อตเตอร์ดัม ปิดดระบบขนส่งสาธารณะและสั่งให้ประชาชนกลับบ้าน ตำรวจใช้หัวฉีดน้ำและส่งตำรวจม้าเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ยังขอให้ผู้ที่เฝ้าดูเหตุการณ์และผู้ที่บันทึกภาพเหตุจลาจล ส่งภาพกับตำรวจเพื่อใข้ในการสอบสวน เนเธอร์แลนด์กลับมาบังคับใช้มาตการล็อกดาวน์บางเงื่อนไขเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เบื้องต้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 แต่ยอดผู้ติดเชื้อยังคงสูง.-สำนักข่าวไทย