ทำเนียบรัฐบาล 12 พ.ย.-“อนุทิน” ระบุขอพิจารณาเรื่องลดขั้นตอนตรวจโควิดต่างชาติเป็น ATK หลัง 16 ธ.ค.64 ย้ำไม่ละเลยความปลอดภัยประชาชน ส่วนการร่วมประชุม WHO พร้อมปฏิบัติตามกฎสวิตเซอร์แลนด์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) ชุดใหญ่เสร็จสิ้น ว่า ไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษ และจะนำข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติโดยเร็ว
ส่วนข้อเสนอการลดขั้นตอนการตรวจเชื้อโควิด-19 ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย จาก RT-PCR เป็นการตรวจ ATK รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้นให้รอพ้นวันที่ 16 ธ.ค.ไปก่อน จึงจะพิจารณาการใช้ ATK ทุกอย่างพยายามจะผ่อนคลายให้เกิดความสะดวกมากที่สุด แต่ต้องไม่ละเลยเรื่องความปลอดภัยของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบาด
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีเดินทางร่วมระชุมกับองค์การอนามัยโลก (WHO)ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยังไม่อนุญาตผ็ที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม แม้จะได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 แล้ว จำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 4 จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย ว่า เมื่อต้องไปประชุมอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ต้องฉีดเพิ่มให้เข้าเกณฑ์ที่ประเทศปลายทางกำหนดและเมื่อเข้าไปก็ไม่ต้องกักตัว เช่นเดียวกับผู้ที่จะเดินทางมาไทย หากเป็นวัคซีนที่ไทยยังไม่อนุญาตก็ต้องแจ้งไปว่าเมื่อเข้ามาต้องกักตัว แต่ถ้าฉีควัคซีนครบ จะรอผล RT-PCR เพียงแค่วันเดียว
“ขออย่าไปมองเรื่องการด้อยค่าวัคซีนซิโนแวค เพราะวัคซีนทุกชนิดป้องกันการเสียชีวิตได้หมด ผู้ที่ได้รับวัคซีนหากติดเชื้อ จะไม่มีอาการหนักหรือเสียชีวิต ผู้มีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ สามารถไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ที่จุดที่ให้บริการ เช่นที่ สถานีกลางบางซื่อได้ แต่ต้องแจ้งประเทศปลายทางที่จะเดินทางไป อย่างไรก็ตาม มองว่า เรื่องนี้ถ้าไม่จำเป็น คงไม่มีใครฉีดวัคซีนจำนวนมาก ภูมิคุ้มกันมากไปก็ใช่ว่าจะดี ทุกอย่างมีข้อกำหนดอยู่ ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากให้เลี่ยงไว้ก่อน แต่การไปประชุมกับองค์การอนามัยโลก ถือว่าเลี่ยงไม่ได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย