“สุวัจน์” เปิดงานวันเด็กโคราช ชวนร่วมสร้างคุณภาพให้กับเด็ก

11 ม.ค.- “สุวัจน์” เปิดงานวันเด็กโคราช เชิญชวนร่วมกันสร้างคุณภาพให้กับเด็ก เพื่อเป็นกำลังสำคัญด้านเศรษฐกิจ ในช่วงที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย แนะนำเด็กทุกคน ออกกำลังกายเล่นกีฬา


เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งทางเทศบาลนครราชสีมา ร่วมกับเดอะมอลล์นครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2568 ภายใต้ชื่อ “THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA” โดยได้รับเกียรติจากนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคชาติพัฒนานายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และทีมสท.โคราชชาติพัฒนา นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บจ.เดอะมอลล์ราชสีมา,นางพินสิริ นามสีฐาน เพ็งงาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นครราชสีมา,คณะผู้พิพากษาสมทบ,ผู้บริหารธนาคารออมสิน, ผู้บริหารมหาวิทยาราชภัฏนครราชสีมา, ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมีประชาชนชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง พาบุตรหลานและครอบครัวเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน

ซึ่งบรรยายกาศภายในงานน้องๆ จะได้สนุกกับ บ้านลมยักษ์ วิ่งล่าท้าความสนุก, Laser Maze ตะลุยแสงเลเซอร์สุดท้าทาย, ตื่นตาตื่นใจไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเรียนรู้การเกิดไม้กลายเป็นหิน ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจากของเสียสู่ของสวย ด้วยเศษเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนพร้อมพบกับกิจกรรมฝึกทักษะการเล่นผ่านสื่อสัมผัสและสันทนาการอย่างสนุกสนาน อาทิ Art & Craft. ชมการแสดง Science Show และลุ้นรับของรางวัลมากมาย ชมและเชียร์การแสดงความสามารถของน้อง ๆ จากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา และมาเปิดประสบการณ์ความสุขสนุกมหาศาล THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA ภายใต้สโลแกนวันเด็กแห่งชาติ 2568 “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”


นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช จัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นประจําหลายปี และปีนี้จัดภายใต้ชื่องานว่า “THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA” ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ส่วนราชการภาคเอกชนได้ให้ความสําคัญกับเด็กๆและเยาวชน เพราะวันนี้เด็กๆ และเยาวชนถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นโอกาสของประเทศชาติอย่างแท้จริง

นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ เมืองไทยก้าวสู่การเป็นเมืองสังคมผู้สูงมากขึ้น ทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ คือ เมื่อมีผู้อายุมากขึ้นกําลังการทํางาน กําลังการผลิตต่างๆ จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เรามีผู้สูงอายุอายุเกิน 60 ปี ประมาณ 13-14 ล้านคน และถ้าอัตราการเกิดกับอัตราของการมีผู้สูงวัยเป็นอย่างนี้ ต่อไปประชากรของประเทศจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้ววันนั้นกําลังของผู้ที่อยู่ในวัยทํางานก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ หมายความว่าต่อไปเด็กๆที่จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าจะต้องรับภาระมากขึ้น เพราะคนที่อยู่ในวัยทํางานจะน้อยลงไปทุกวัน สมมติ วันนี้ผู้อยู่ในวัยทํางาน 30 กว่าล้านคน ก็รับภาระประเทศชาติ รับภาระเศรษฐกิจ รับภาระดูแลผู้สูงอายุ รับภาระในการจัดหางบประมาณเท่านี้ แต่ต่อไปผู้ที่อยู่ในวัยกำลังทำงานจะต่ํากว่า 30 ล้าน อาจจะเหลือ 25 ล้าน หรือ 20 ล้าน ฉะนั้น คนที่ต้องการรับภาระเรื่องของประเทศก็ต้องแบกภาระมากขึ้น คนต่างๆ เหล่านั้นก็คือ เด็กในวันนี้ เพราะโครงสร้างของประชากรของประเทศเปลี่ยนแปลงไป

ฉะนั้น เรามีความจําเป็นที่จะต้องให้ความสําคัญกับการบ่มเพาะการดูแลการใกล้ชิดกับเด็กๆ และเยาวชนให้เค้ามีคุณภาพที่เข้มแข็งมากขึ้น มีคุณภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายความว่าจะต้องเป็นคนที่มีการศึกษา มีความรู้ มีความสามารถ มีทักษะ มีความรัก มีความสามัคคี เพื่อที่จะได้เป็นกําลังของประเทศชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในวันข้างหน้าที่กําลังการผลิตของประเทศลดน้อยลงไปเพราะโครงสร้างของประชากร หรือความท้าทายที่สําคัญ คือ เรื่องการเข้ามาของเทคโนโลยี ความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทําธุรกิจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างรวดเร็ว ถูกท้าทายด้วยความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี


ฉะนั้น ผมคิดว่าเป็นภาระหน้าที่ร่วมกันของผู้ใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้ของทุกภาคส่วน คุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ ภาครัฐ ภาคเอกชนที่จะต้องรวมพลังภายในการที่จะสร้างเยาวชนของเรา ให้เข้มแข็งเพื่อรับภารกิจของประเทศชาติในวันข้างหน้าได้อย่างแท้จริง

ดังนั้น วันนี้ ถือว่าเป็นการรวมพลังของผู้หลัก ผู้ใหญ่ของเมืองโคราช ท่านที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ท่านนายกเทศมนตรีฯพร้อมคณะผู้บริหารสท. ท่านผู้พิพากษาศาลเยาวชน คณะผู้พิพากษาศาลสมทบ ผู้บริหารองค์กรเอกชน ผู้บริหารธนาคารออมสิน ผู้บริหารเดอะมอลล์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฏโคราช พ่อแม่ผู้ปกครองมากันเยอะมาก อันนี้คือ การบูรณาการความเข้มแข็งของผู้ใหญ่เมืองโคราช ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจร่วมกัน เราจะต้องสร้างเด็กๆ และเยาวชนของคนโคราชให้เข้มแข็งมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรับภารกิจอันหนักหน่วงในวันข้างหน้าต่อไป

นายสุวัจน์ กล่าวว่าท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบคําขวัญไว้ว่า “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ขอให้เยาวชนได้รับทราบและเข้าใจความห่วงใยที่ท่านนายกรัฐมนตรีมีต่อทุกท่าน คือ ขอให้ทุกคนได้ใช้โอกาสสู่การเรียนรู้ เพื่อที่จะปรับตัวสู่อนาคต และขอฝากถึงเด็กๆ เยาวชนทุกคน

“ขอให้เด็กทุกคนรู้ว่าเราจะต้องเป็นกําลังสําคัญของประเทศต่อไป ขอให้ทุกคนเป็นคนดี ตั้งใจเรียน มีความรักสามัคคี เล่นกีฬาออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพแข็งแรง เพื่อสร้างกําลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป” นายสุวัจน์ กล่าว .312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]