“สุวัจน์” เปิดงานวันเด็กโคราช ชวนร่วมสร้างคุณภาพให้กับเด็ก

11 ม.ค.- “สุวัจน์” เปิดงานวันเด็กโคราช เชิญชวนร่วมกันสร้างคุณภาพให้กับเด็ก เพื่อเป็นกำลังสำคัญด้านเศรษฐกิจ ในช่วงที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย แนะนำเด็กทุกคน ออกกำลังกายเล่นกีฬา


เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งทางเทศบาลนครราชสีมา ร่วมกับเดอะมอลล์นครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2568 ภายใต้ชื่อ “THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA” โดยได้รับเกียรติจากนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคชาติพัฒนานายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และทีมสท.โคราชชาติพัฒนา นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บจ.เดอะมอลล์ราชสีมา,นางพินสิริ นามสีฐาน เพ็งงาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นครราชสีมา,คณะผู้พิพากษาสมทบ,ผู้บริหารธนาคารออมสิน, ผู้บริหารมหาวิทยาราชภัฏนครราชสีมา, ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมีประชาชนชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง พาบุตรหลานและครอบครัวเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน

ซึ่งบรรยายกาศภายในงานน้องๆ จะได้สนุกกับ บ้านลมยักษ์ วิ่งล่าท้าความสนุก, Laser Maze ตะลุยแสงเลเซอร์สุดท้าทาย, ตื่นตาตื่นใจไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเรียนรู้การเกิดไม้กลายเป็นหิน ร่วมสร้างสรรค์ผลงานจากของเสียสู่ของสวย ด้วยเศษเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนพร้อมพบกับกิจกรรมฝึกทักษะการเล่นผ่านสื่อสัมผัสและสันทนาการอย่างสนุกสนาน อาทิ Art & Craft. ชมการแสดง Science Show และลุ้นรับของรางวัลมากมาย ชมและเชียร์การแสดงความสามารถของน้อง ๆ จากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา และมาเปิดประสบการณ์ความสุขสนุกมหาศาล THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA ภายใต้สโลแกนวันเด็กแห่งชาติ 2568 “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”


นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช จัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นประจําหลายปี และปีนี้จัดภายใต้ชื่องานว่า “THE MALL KORAT KIDS FUNTASIA” ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ส่วนราชการภาคเอกชนได้ให้ความสําคัญกับเด็กๆและเยาวชน เพราะวันนี้เด็กๆ และเยาวชนถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นโอกาสของประเทศชาติอย่างแท้จริง

นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ เมืองไทยก้าวสู่การเป็นเมืองสังคมผู้สูงมากขึ้น ทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ คือ เมื่อมีผู้อายุมากขึ้นกําลังการทํางาน กําลังการผลิตต่างๆ จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เรามีผู้สูงอายุอายุเกิน 60 ปี ประมาณ 13-14 ล้านคน และถ้าอัตราการเกิดกับอัตราของการมีผู้สูงวัยเป็นอย่างนี้ ต่อไปประชากรของประเทศจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้ววันนั้นกําลังของผู้ที่อยู่ในวัยทํางานก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ หมายความว่าต่อไปเด็กๆที่จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าจะต้องรับภาระมากขึ้น เพราะคนที่อยู่ในวัยทํางานจะน้อยลงไปทุกวัน สมมติ วันนี้ผู้อยู่ในวัยทํางาน 30 กว่าล้านคน ก็รับภาระประเทศชาติ รับภาระเศรษฐกิจ รับภาระดูแลผู้สูงอายุ รับภาระในการจัดหางบประมาณเท่านี้ แต่ต่อไปผู้ที่อยู่ในวัยกำลังทำงานจะต่ํากว่า 30 ล้าน อาจจะเหลือ 25 ล้าน หรือ 20 ล้าน ฉะนั้น คนที่ต้องการรับภาระเรื่องของประเทศก็ต้องแบกภาระมากขึ้น คนต่างๆ เหล่านั้นก็คือ เด็กในวันนี้ เพราะโครงสร้างของประชากรของประเทศเปลี่ยนแปลงไป

ฉะนั้น เรามีความจําเป็นที่จะต้องให้ความสําคัญกับการบ่มเพาะการดูแลการใกล้ชิดกับเด็กๆ และเยาวชนให้เค้ามีคุณภาพที่เข้มแข็งมากขึ้น มีคุณภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายความว่าจะต้องเป็นคนที่มีการศึกษา มีความรู้ มีความสามารถ มีทักษะ มีความรัก มีความสามัคคี เพื่อที่จะได้เป็นกําลังของประเทศชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในวันข้างหน้าที่กําลังการผลิตของประเทศลดน้อยลงไปเพราะโครงสร้างของประชากร หรือความท้าทายที่สําคัญ คือ เรื่องการเข้ามาของเทคโนโลยี ความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทําธุรกิจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอย่างรวดเร็ว ถูกท้าทายด้วยความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี


ฉะนั้น ผมคิดว่าเป็นภาระหน้าที่ร่วมกันของผู้ใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้ของทุกภาคส่วน คุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ ภาครัฐ ภาคเอกชนที่จะต้องรวมพลังภายในการที่จะสร้างเยาวชนของเรา ให้เข้มแข็งเพื่อรับภารกิจของประเทศชาติในวันข้างหน้าได้อย่างแท้จริง

ดังนั้น วันนี้ ถือว่าเป็นการรวมพลังของผู้หลัก ผู้ใหญ่ของเมืองโคราช ท่านที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ท่านนายกเทศมนตรีฯพร้อมคณะผู้บริหารสท. ท่านผู้พิพากษาศาลเยาวชน คณะผู้พิพากษาศาลสมทบ ผู้บริหารองค์กรเอกชน ผู้บริหารธนาคารออมสิน ผู้บริหารเดอะมอลล์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฏโคราช พ่อแม่ผู้ปกครองมากันเยอะมาก อันนี้คือ การบูรณาการความเข้มแข็งของผู้ใหญ่เมืองโคราช ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจร่วมกัน เราจะต้องสร้างเด็กๆ และเยาวชนของคนโคราชให้เข้มแข็งมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรับภารกิจอันหนักหน่วงในวันข้างหน้าต่อไป

นายสุวัจน์ กล่าวว่าท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้มอบคําขวัญไว้ว่า “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ขอให้เยาวชนได้รับทราบและเข้าใจความห่วงใยที่ท่านนายกรัฐมนตรีมีต่อทุกท่าน คือ ขอให้ทุกคนได้ใช้โอกาสสู่การเรียนรู้ เพื่อที่จะปรับตัวสู่อนาคต และขอฝากถึงเด็กๆ เยาวชนทุกคน

“ขอให้เด็กทุกคนรู้ว่าเราจะต้องเป็นกําลังสําคัญของประเทศต่อไป ขอให้ทุกคนเป็นคนดี ตั้งใจเรียน มีความรักสามัคคี เล่นกีฬาออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพแข็งแรง เพื่อสร้างกําลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป” นายสุวัจน์ กล่าว .312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย