กรุงเทพฯ 8 พ.ย.-โฆษกรัฐบาลย้ำนายกฯ สั่งการช่วยเหลือเกษตรกรแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ กำหนดมาตรการช่วยเหลือระยะสั้นและระยะยาว กระทรวงเกษตรฯ ได้ทำแผน “โซนนิ่งการปลูกข้าว”
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ง แก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ได้อนุมัติโครงการประกันรายได้ ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานอื่น ๆ วงเงิน 18,000 ล้านบาท กำหนดราคาข้าวเปลือก ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้
1. ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
2. ข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
3. ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน
4. ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
5. ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
นายธนกร กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการคู่ขนาน ธ.ก.ส.ให้สินเชื่อรวบรวมจัดเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท และเพิ่มสภาพคล่องในการรับซื้อข้าวเปลือกแก่สหกรณ์ และโรงสี โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 2-6 เดือน สำหรับโรงสี และ 1 ปี สำหรับสหกรณ์ นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดระเบียบพื้นที่หรือ “โซนนิ่งการปลูกข้าว” บนพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกข้าวแต่ละชนิด รวมทั้งพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมุ่งผลิตข้าวที่มีคุณภาพในแต่ละพื้นที่แทนการปลูกให้ได้จำนวนมาก ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ข้าวระยะ 5 ปี คือ ปี 2563-67 เร่งพัฒนาส่งเสริมในการใช้พันธุ์ข้าว 12 ชนิด ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่เป็นไปตามความต้องการของตลาด เป็นไปตามยุทธศาสตร์การตลาดนำการผลิต
นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับกรณี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองพรรคเพื่อไทย ระบุว่า โครงการจำนำข้าวถูกทำลายจนไม่สามารถช่วยชาวนาได้ และประกาศว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะไม่มีแค่โครงการสร้างรายได้ให้ชาวนา แต่จะมีรายได้ และสามารถปลดหนี้ปลดสินได้นั้น อยากให้นายวรวัจน์ทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า ถ้าโครงการจำนำข้าวถูกทำลายจนไม่สามารถช่วยชาวนาได้นั้น น่าจะเป็นเพราะคนในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเองมากกว่า ที่ทุจริตจนมีอดีตรัฐมนตรีถูกตัดสินจำคุกมาแล้ว อย่าโยนบาปให้คนอื่น ทางที่ดี ขอให้ตามอดีตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย กลับมารับผิดชอบความผิดพลาดในการบริหารงานของตัวเองจนประเทศเสียหายก่อนจะดีกว่า .- สำนักข่าวไทย