ประชุมออนไลน์ 4 พ.ย.64-บริษัท ไทยลีก จำกัด จัดงานประชุมเพื่อพูดคุยกับตัวแทนของสโมสรในไทยลีก 1 ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขัน สำหรับ รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2564/65 โดยมี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนของสโมสรในไทยลีก 1 เข้าร่วมพูดคุยในงานประชุม
สำหรับกาารประชุมครั้งนี้ มีหัวข้อสำคัญในเรื่องของการพูดคุย เพื่อหาแนวทางในการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขันเนื่องจากทาง ไทยลีก ได้รับการประสานงานจากทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ถึง 1 มกราคม 2565
ซึ่ง ฝ่ายจัดการแข่งขันของไทยลีก ได้เสนอแนวทางในการปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขันเป็นดังนี้
1. ขยับโปรแกรมการแข่งขัน รีโว่ ไทยลีก 2021/22 แมตช์เดย์ที่ 15 (เกมสุดท้ายในเลกแรก) จากวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2564 มาแข่งในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2564
2. ขยับโปรแกรมการแข่งขัน รีโว่ ลีก คัพ 2021/22
1) รอบ 32 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 1 ธันวาคม 2564 มาแข่งในวันที่ 12 มกราคม 2565
2) รอบ 16 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 5 มกราคม 2565 มาแข่งในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565
3) รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 มาแข่งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
4) รอบรองชนะเลิศ จากวันที่ 2 มีนาคม 2565 มาแข่งในวันที่ 9 มีนาคม 2565
3. ขยับโปรแกรมการแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2021/22
1) รอบ 32 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 มาแข่งในวันที่ 19 มกราคม 2565
2) รอบ 16 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 19 มกราคม 2565 มาแข่งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565
3) รอบ 8 ทีมสุดท้าย จากวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 มาแข่งในวันที่ 2 มีนาคม 2565
โดย คุณกรวีร์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานมาจากทางทีมชาติ ในเรื่องของความต้องการจากเฮดโค้ชทีมชาติไทยในส่วนของการเตรียมพร้อมก่อนแข่งขันซูซูกิ คัพ ในเดือนธันวาคม ว่ามีข้อจำกัดในด้านใดบ้าง ทั้งการเดินทาง การเตรียมความพร้อม หรือจำนวนเกมการแข่งขัน ทางทีมชาติจึงได้มีการร้องขอ ให้พิจารณาเรื่องของการปรับเปลี่ยนการแข่งขัน เพื่อให้ทีมชาติมีเวลาที่ฝึกซ้อมมากขึ้น
โดย กรวีร์ ยังกล่าวอีกว่า ได้แจ้งกับทางสมาคมฯ ไป และได้มีการพูดคุยกับทาง มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ซึ่งได้อธิบายถึงแนวคติดของไทยลีก และการทำงานกับสโมสร ซึ่งการเลื่อนโปรแกรม ที่อาจกระทบกับสโมสรทั้งหมดในกรณีนี้ ไทยลีก หรือสมาคมฯ จะไม่ตัดสินเอง เพราะอาจเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของสโมสร การขยับโปรแกรมแบบนี้จึงต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้ง 16 สโมสร จึงแจ้งเรื่องนี้กลับไปถึงสมาคมฯ และทางมาโน่แล้ว ถึงเงื่อนไขที่มี”
ทั้งนี้ ไทยลีก จะให้เวลาแก่สโมสรสมาชิกในการตัดสินใจว่า ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนปฏิทินตามการแข่งขัน ตามที่ไทยลีกเสนอหรือไม่ หรือมีข้อคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะอย่างไรสำหรับการจัดปฏิทินการแข่งขันนี้ ซึ่งต้องเป็นความสมัครใจของทางสโมสรสมาชิก โดยไทยลีกทำหน้าที่เพียงแค่เสนอทางออกที่ดีที่สุดต่อทุกฝ่ายเท่านั้น
“นอกจากนี้ เรายังมีการพูดคุยถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับการถ่ายทอดสด ที่ทางเอไอเอส รวมถึงฟรีทีวี ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปถ่ายทอดสด และมีการประชาสัมพันธ์ไปแล้ว อีกทั้งการขยับโปรแกรมครั้งนี้ ไม่ได้ตรงกับช่วงฟีฟ่าเดย์ ซึ่งหากพูดกันตามตรง ก็เป็นสิทธิของสโมสรที่จะปล่อยนักเตะหรือไม่ก็ได้ ไทยลีก หรือสมาคมฯ ไม่มีสิทธิบังคับในกรณีนี้” นายกรวีร์กล่าวว่า-สำนักข่าวไทย