กระทรวงการคลัง 3 พ.ย.- คลังทยอยกู้เงินฟื้นฟูโควิด-19 ยอมรับแผนกู้ใหม่ 1.2 ล้านล้านบาท ปี 65 ทำยอดหนี้สาธารณะพุ่งร้อยละ 62 ของจีพีดี เผยรอแผนกู้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ บรรจุหนี้สาธารณะ
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า แผนบริหารเงินกู้งบประมาณปี 2565 กำหนดแผนกู้เงินใหม่ 1.12 ล้านล้านบาท และแผนบริหารจัดการเงินกู้เพื่อชดเชยเงินกู้เดิม 1.19 ล้านล้านบาท รวมเป็นการกู้เงินในปี 2565 วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท แต่กระทบต่อภาระหนี้สาธารณะเฉพาะวงเงินกู้ใหม่ 1.12 ล้านล้านบาท จะทำให้เพดานหนี้สาธารณะ ร้อยละ 62 ของจีดีพี ในช่วงเดือน ก.ย.65 จากปัจจุบันร้อยละ 57.98 ของจีดีพี
สำหรับแผนบริหารจัดการเงินกู้ของ สบน. ยังเน้นแหล่งเงินกู้ในประเทศเป็นหลัก ขณะนี้แหล่งเงินกู้ต่างประเทศ ยังไม่ปิดโอกาสในการกู้เงิน เพราะยังหารือกับหลายองค์กร เพื่อนำ Bond ความยั่งยืน ออกไปจำหน่าย หากมีต้นทุนต่ำ สำหรับการกู้เงินจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ทยอยแบ่งกู้จากตลาด 42,000 ล้านบาท นำไปใช้ในโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 3,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายในประเทศ ส่วนการออกพันธบัตร “ออมไปด้วยกัน” วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท นำไปใช้ชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 65 วงเงิน 7 แสนล้านบาท โดยวงเงิน พ.ร.บ.เงินกู้ ที่เหลืออยู่ 2.63 แสนล้านบาท ต้องให้คณะกรรมการกลั่นกรองจากสภาพัฒน์ พิจารณาว่าจะนำไปใช้ในโครงการใด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากปัญหาโควิด-19
สำหรับการกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อแทรกแซงราคาน้ำมันในตลาดไม่ให้ปรับสูงขึ้นนั้น เป็นอำนาจการกู้เงินตาม พ.ร.ก.กองทุนน้ำมันฯ ขณะนี้รอเพียงการส่งแผนเงินกู้ เพื่อเสนอ ครม.พิจารณา และนำมาบรรจุในแผนก่อหนี้สาธารณะ โดยกองทุนน้ำมันฯ เป็นผู้กู้เอง หรือจะให้ สบน.จัดหาแหล่งเงินกู้ เพื่อนำเงินไปดูแลราคาน้ำมันในประเทศให้เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย