กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – ไทยออยล์สามารถรักษาความเป็นผู้นำระดับ Gold Class ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้านความยั่งยืนของอุตสาหรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ จากการประกาศผล RobecoSAM Sustainability Award 2017
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ครั้งนี้บริษัทขนาดใหญ่ของโลกกว่า 3,420 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนโดย RobecoSAM แบ่งการประเมินออกเป็น 60 อุตสาหกรรม โดย Gold Class ถือเป็นระดับสูงสุด คือเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน เป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว โดยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการสร้างโอกาสต่อธุรกิจภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
“ปีนี้ RobecoSAM มีมุมมองต่ออุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการเปลี่ยนน้ำมันดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้ต้องเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยประเด็นด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และกฏระเบียบต่างๆในการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการกลั่น การควบคุมต้นทุน และการบริหารจัดการความเสี่ยงตลอดสายโซ่อุปทาน โดยมีบุคลากรเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการสร้างความสำเร็จขององค์กร ทั้งหมดนี้จึงเป็นประเด็นสำคัญในการประเมินครั้งนี้ ซึ่งไทยออยล์ได้รับการประเมินเป็นอันดับหนึ่งในทุกมิติความยั่งยืนที่ประกอบด้วย เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” นายอธิคม กล่าวเสริม
นายอธิคม กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ กำหนดนโยบายและเป้าหมายการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกำหนดดัชนีชี้วัดที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นความสมดุลทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และตอบสนองผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มด้วยความเป็นธรรม สำหรับประเทศไทยมี 4 บริษัทใน 4 อุตสาหกรรม ที่ RobecoSAM จัดอันดับให้เป็นผู้นำระดับ Gold Class ของอุตสาหกรรมนั้น ๆ ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มนักลงทุนในความสามารถของบริษัทไทยในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว .-สำนักข่าวไทย