ไทยออยล์ไม่เพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันแม้โอเปกจะฮั้วสำเร็จ

กรุงเทพฯ 13 ธ.ค. – ไทยออยล์ประเมินราคาน้ำมันดิบปีหน้า 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าระดับราว 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้ ส่งผลรายได้ปีหน้าเพิ่มขึ้น


นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) กล่าวว่าแม้กลุ่มโอเปกและนอกโอเปกได้บรรลุข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั้งสิ้น 558,000 บาร์เรลต่อวันเพิ่มเติมจากที่กลุ่มโอเปกได้มีข้อตกลงลดกำลังลงการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันก่อนหน้านี้ และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบช่วงนี้ขยับขึ้นแต่บริษัทยังคงคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงกว่าระดับราว 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้ ซึ่งข้อตกลงนี้ ทำให้ภาวะโอเวอร์ซัพพลายของน้ำมันกลับเข้าสู่สมดุลเร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 60 แต่ก็ต้องจับตาดูว่าผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานหรือแชลล์ออยล์ในสหรัฐ จะกลับมาผลิตมากน้อยเพียงใด หากกลับมาผลิตเพิ่มขึ้นด้วย ก็จะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไม่ได้มากนัก

ทั้งนี้ในปีหน้า TOP คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่การกลั่นทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นประมาณ6 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้ภาวะการผลิตเกินต้องการหรือโอเวอร์ซัพพลายค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่ปี 58 ต่อเนื่องปี 59 ส่งผลค่าการกลั่น (GRM)ปีนี้ดีขึ้นคาดต่อเนื่องถึงปี60 โดยค่าการกลั่นที่ของบริษัทในปีหน้าจะใกล้เคียงกับปีนี้ระดับ 5 เหรียญ/บาร์เรลส่วนค่าการกลั่นรวม( GIM )ซึ่งรวมน่าจะอยู่ประมาณ 7 เหรียญ โดยปีหน้าบริษัทไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุง(ชัทดาวน์) กำลังกลั่นจะกลั่นเต็มที่ ดังนั้น ยอดขายปี 60 น่าจะอยู่ที่ระดับ 2.8-3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ราว 2.6-2.7 แสนล้านบาท   ลดลงจาก 2.94 แสนล้านบาทในปีที่แล้วตามราคาน้ำมันที่ปรับลง ส่วนไตรมาส 4/59 บริษัทอาจจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ธ.ค.มายืนเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในขณะที่ในเดือน ก.ย. ซึ่งคิดเป็นราคาปิด ณ สิ้นไตรมาส 3/59 ที่อยู่ในระดับ 43.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล


ส่วนธุรกิจพาราไซลีน (PX)  สำหรับในปี 60 คาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำราวเกือบ 300 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากราว 319 เหรียญสหรัฐ/ตันในปีนี้ จากภาวะโอเวอร์ซัพพลายที่ยังคงอยู่ หลังได้รับแรงกดดันจากกำลังผลิตใหม่ของโลกที่จะเข้ามาราว 3.8 ล้านตัน/ปีทั้งจากอินเดียและซาอุดิอาระเบีย ส่วนสเปรดผลิตภัณฑ์เบนซีน (Bz) คาดว่าจะอยู่ในช่วง 160-180 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากราว 148 เหรียญสหรัฐ/ตันในปีนี้ ขณะที่ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานและยางมะตอยในปีหน้าน่าจะดีกว่าปีนี้ ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากงานก่อสร้างโครงการของภาครัฐที่จะออกมามากขึ้น

นอกจากนี้ ในปีหน้ายังคาดว่าจะได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเดินเครื่องผลิตเต็มปีของโรงงานที่เสร็จในปี 59 ได้แก่โรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 239 เมกะวัตต์จะสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 1 พันล้านบาท/ปี และโครงการผลิตสาร Linear Alkyl Benzene (LAB) กาลังผลิตประมาณ 1 แสนตัน/ปีขณะที่บริษัทยังได้ศึกษาการขยายกำลังผลิตของ LAB หรือในสายงานผลิต LAB ในอนาคตด้วย

สำหรับการลงทุนในปี 60 จะมี การสร้างถังน้ำมันเพิ่มรองรับการสำรองน้ำมันตามกฎหมายที่จะเพิ่มขึ้นตามกำลังผลิต , การขยายสถานีจ่ายน้ำมันทางรถ (lorry loading) จากปัจจุบันมีอยู่ 10 จุด จะเพิ่มเป็น 15 จุด รองรับการขายน้ำมันในประเทศและอินโดจีน การปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือให้รองรับเรือขนาดใหญ่ได้มากขึ้น รวมถึงการสร้างสำนักงานใหม่ใน จ.ชลบุรี ซึ่งการลงทุนทั้งหมดอยู่ในวงเงินลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 60-64) รวม 357 ล้านเหรียญสหรัฐ


ส่วนโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (Clean Fuel Project:CFP) มูลค่าราว 3,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่มีเป้าหมายจะขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเป็นระดับ 4 แสนบาร์เรล/วัน จาก 2.75 แสนบาร์เรล/วันในปัจจุบันนั้น ยังเป็นไปตามแผนงาน โดยจะออกเอกสารเชิญประมูล (TOR) ในช่วงปลายไตรมาส 1/60 หรือต้นไตรมาส 2/60 และให้เวลาผู้รับเหมาพิจารณาประมาณ 9 เดือนก่อนจะส่งเอกสาร น่าจะเป็นช่วงปลายปี 60 หรือต้นปี 61 จากนั้นจะพิจารณาความคุ้มทุนทางด้านเศรษฐศาสตร์อีกครั้งหนึ่งก่อนจะตัดสินใจขออนุมัติการลงทุนขั้นสุดท้ายจากคณะกรรมการในต้นปี 61 ดังนั้นการลงทุนจะเกิดขึ้นในปี 61 และมีผลิตภัณฑ์ออกมาในต้นปี 65 โดยเงินลงทุนเบื้องต้นตามแผน 5 ปีนั้นจะมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ราว 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทยังไม่มีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์ภาระหนี้ที่มีอยู่  -สำนักข่่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย