5 ก.พ. – เป็นประเด็นร้อนที่ต้องตามต่ออีกหลายปมเชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดไซซะนะ โดยพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะประชุมร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะกรณีเบนซ์ เรซซิ่ง ยืมเงินบอย ณัฐพลไปดาวน์ลัมโบกินีโดยไม่มีการทำสัญญา
หลังจาก นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” เข้าให้ปากคำตำรวจ ยืนยันรู้จักเพียง “บอย ณัฐพล นาคคำ” เพราะชอบรถเหมือนกัน และไม่เคยรู้มาก่อนว่า “บอย ณัฐพล” เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด นายไซซะนะ แก้วพิมพา แต่ยอมรับมีการยืมเงิน 6 ล้านบาท จาก “บอย ณัฐพล” ไปดาวน์รถลัมโบกินี ซึ่งประเด็นนี้ตำรวจยังสงสัยทำไม “บอย ณัฐพล” ให้ยืมเงินโดยไม่มีการทำสัญญา รวมถึงประเด็นการถอนเงินสด ที่นายอัครกิตติ์ อ้างว่า ได้ถอนจากธนาคารจำนวน 1 ล้าน 9 แสนบาท ไปทยอยใช้หนี้นายบอย และกรณี “บอย ณัฐพล” โอนเงินเข้าบัญชีร้านแอเรีย 51 เป็นจำนวน 3 แสนบาท ทุกเดือน
ล่าสุด พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ว่า ในวันพรุ่งนี้ตำรวจ ปส.จะมีการประชุมร่วมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะ ป.ป.ส.และ ปปง.เพื่อให้ได้ความชัดเจนในหลายเรื่องที่ยังสงสัย รวมถึงประเด็นที่เชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ และอาจต้องเชิญ นายอัครกิตติ์ มาให้ปากคำเพิ่ม ส่วนกรณีที่สื่อให้ความสนใจเกี่ยวกับดารา และคนบันเทิง ที่มีภาพปรากฎในสื่อออนไลน์ ต้องรวบรวมหลักฐาน และตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัดก่อนเชิญมาให้ปากคำ เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ เพราะดาราบางคนอาจเพียงไปแค่ไปร่วมงาน แต่บางคนที่มีการถ่ายภาพร่วมกันบ่อย ๆ ก็อาจจำเป็นต้องเชิญมาชี้แจง
ส่วนการเตรียมเปิดปฏิบัติ การกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดครั้งใหญ่ หรือที่เรียกว่า “ปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/3 ที่ในตอนแรกคาดว่าจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม พล.ต.ต.ชาตรี บอกว่า ยังบอก วัน เวลาที่แน่ชัดไม่ได้ โดยยอมรับเมื่อมีเรื่องของนายอัครกิตติ์ และอีกหลายประเด็นที่สื่อให้ความสนใจ อาจจำเป็นต้องทำเรื่องต่าง ๆ ให้ความจริงปรากฏอย่างเร่งด่วนก่อน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการประชุมในวันพรุ่งนี้ อาจมีการออกหมายจับเครือข่ายนายไซซะนะ เพิ่ม และมีความชัดเจนเรื่องรถลัมโบกินี. -สำนักข่าวไทย