ผบ.ตร.แถลงนโยบายปี 65 มุ่งกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์

กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – ผบ.ตร.แถลงนโยบายปี 65 มุ่งเน้นกวาดล้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ หลังพบสถิติคดีพุ่งสูงต่อเนื่อง สั่งดูแลสวัสดิการตำรวจ หลังพบตำรวจกว่า 2 แสนนาย ยอดหนี้รวมกันสูงกว่า 2 แสนล้านบาท


พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จัดการประชุมมอบนโยบายการบริหารราชการ ประจำปี 2565 ให้กับนายตำรวจระดับผู้บังคับการ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังทั่วประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการ 1 ปีที่ผ่านมา ปรับหลายอย่าง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า นโยบายปีหน้าจะเน้นย้ำการทำคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางไซเบอร์ หรือโซเชียลมีเดีย เพราะจากการดำเนินคดีกว่า 1 ล้านคดี ตัวเลขการทำผิดโซเชียลมีจำนวนหลักพันคดี พร้อมยอมรับว่า การทำงานทางโซเชียลมีความยากลำบาก คือ การพิสูจน์ตัวตนผู้กระทำความผิด


สำหรับมาตรการเชิงรุก คือ การจัดซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัย นำบุคลากรระดับรองสารวัตรถึงรองผู้กำกับ ไปอบรมเพิ่มความรู้เทคนิคการพิสูจน์ตัวตนกับผู้กระทำความผิด เพราะปัจจุบันความยากของคดีโซเชียล คือ การพิสูจน์ตัวตนของผู้กระทำความผิด โดยนายตำรวจระดับรองสารวัตรถึงรองผู้กำกับ จะเป็นกำลังสำคัญที่เข้ามาช่วยคลี่คลายคดีทางไซเบอร์ได้ในอนาคต รวมทั้งการให้ความรู้กับประชาชน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำเรื่องยาเสพติด เตรียมสร้างสถานบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด โดยจะมีการนำเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์มาใช้กับผู้ถูกบำบัด และจะทำการวัดผลโดยการคืนประชาชนสู่สังคมให้ได้มากที่สุด ถือเป็นดัชนีชี้วัดว่าจะมีผลสำเร็จหรือไม่

และในปีนี้จะให้มีการทำโพลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อตำรวจในโรงพักต่างๆ วัดความพึงพอใจว่า ประชาชนมีปฏิกิริยากับตำรวจอย่างไรบ้าง


สำหรับการลงโทษตำรวจที่ทำผิด ปีนี้เตรียมใช้ยาแรง โดยมอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติมีอำนาจดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องมาถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ ยังสั่งให้มีการดูแลเรื่องของสวัสดิการตำรวจและครอบครัว โดยเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาให้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากมีข้อมูลพบว่า ตำรวจทั่วประเทศกว่า 200,000 นาย มียอดหนี้รวมกันแล้วกว่า 200,000 ล้านบาท

ส่วนตำรวจที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ในปีนี้ ก็จะมีผลต่อการแต่งตั้ง โดยจะเสนอไปยัง ก.ตร.ว่า เมื่อนายตำรวจไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ก็จะไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง