แคนเบอร์รา 31 ส.ค. – ออสเตรเลียขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในกรุงแคนเบอร์ราออกไปอีก 2 สัปดาห์ ในขณะที่เมืองหลวงของออสเตรเลียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา
นายแอนดรูว์ บาร์ มุขมนตรีของออสเตรเลียน แคปิตอล เทร์ริทอรี (Australian Capital Territory) ซึ่งเป็นดินแดนเขตเมืองหลวงของออสเตรเลีย กล่าวว่า จะขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในเมืองหลวงของออสเตรเลียไปจนถึงวันที่ 17 กันยายนเป็นอย่างน้อย เพื่อทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลงและควบคุมการระบาดครั้งล่าสุด อย่างไรก็ดี กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นได้ช้าและต้องใช้เวลามากขึ้นในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ขณะที่ทางการกรุงแคนเบอร์รารายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 13 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งนี้ กรุงแคนเบอร์ราใช้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจำนวนมากที่คาดว่าเป็นการแพร่ระบาดมาจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของออสเตรเลียในครั้งนี้
รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,164 คน ลดลงจากวันก่อนที่มี 1,290 คน ขณะที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอกและอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลา 5 สัปดาห์ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 76 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 73 คน ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 54,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย เผยวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ 500,000 โดสจากสิงคโปร์ในสัปดาห์นี้จากการทำข้อตกลงแลกวัคซีนของทั้งสองประเทศ และออสเตรเลียจะคืนวัคซีนจำนวนดังกล่าวให้แก่สิงคโปร์ภายในปีนี้ ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้ออสเตรเลียเร่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้รวดเร็วขึ้นหลังเผชิญกับปัญหาในการควบคุมการระบาด.-สำนักข่าวไทย
