ร้องอธิบดีกรมการปกครอง ตรวจสอบ ปธ.-คกก.หมดวาระแล้วไม่ยอมเลือกตั้งชุดใหม่

อนันต์ชัย

26 พ.ย. – ร้องอธิบดีกรมการปกครอง ตรวจสอบประธาน และคณะกรรมการสมาคมฮินดู ที่หมดวาระ หลังไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่


นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมนายรามลลิต สุกุลพราหมณ์ ในฐานะผู้แทนสมาชิกสมาคมฮินดูธรรมสภา (วัดวิษณุ) และคณะ ได้มายื่นหนังสือร้องเรียน ให้นายชัยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ให้ตรวจสอบประธาน และคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระ และจะตามคดีทุก 30 วัน โดยนายมนู บุญสนอง หัวหน้ากลุ่มทะเบียนสมาคม เป็นผู้รับแทน​ สืบเนื่องจากกรณีคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งครบวาระแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 แต่ไม่จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตามข้อบังคับสมาคมฮินดูธรรมสภา กำหนดให้กรรมการทุกคนของคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เป็นสมาชิกของสมาคมฯ โดยกำหนดให้คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี เมื่อครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ต้องจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อให้สมาชิกเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ครบวาระ แต่เมื่อดำรงตำแหน่งครบวาระแล้ว คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบัน กลับไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับสมาคมฯ แต่ไปล็อบบี้ให้สมาชิกในที่ประชุมใหญ่สามัญ จำนวน 44 คน จากสมาชิกทั้งหมด 163 คน ลงมติเห็นควรให้คณะกรรมการชุดเดิมรักษาการไปจนกว่าการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ และศิวาลัยด้านหน้าสมาคมฯ จะแล้วเสร็จ​ รวมทั้งคดีความต่างๆ ของสมาคมฯ ที่ยังค้างคาอยู่ในศาลอีกหลายคดี และยังไม่มีคดีไหนตัดสินถึงที่สุด เห็นว่าคดีต่างๆ ของสมาคมฯ ควรจะสิ้นสุดทั้งหมดก่อน แล้วค่อยจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่


นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบัน ยังได้พยายามที่จะแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฮินดูธรรมสภา เพื่อให้ตนเองอยู่ในอำนาจบริหารต่อไปได้ โดยขอแก้ไขเพิ่มบทเฉพาะกาล “ให้คณะกรรมการชุดปัจจุบันรักษาการต่อไปอีกเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป” โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน แต่ปรากฏว่านายทะเบียนฯ ได้ปฏิเสธในการแก้ไขข้อบังคับดังกล่าว​ จากการกระทำของคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดปัจจุบัน จึงตั้งข้อสังเกตว่า มีเจตนาฝ่าฝืนต่อข้อบังคับ และขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ อันมีลักษณะเป็นการยึดติด เหนี่ยวรั้งตำแหน่ง หน่วงเวลาเพื่อรักษาอำนาจไม่ให้จัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ เข้ามาบริหารต่อหรือไม่ สมาคมฮินดูธรรมสภานั้นไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคล หรือกลุ่มใด การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐทางศาสนาหรือไม่ เพราะสมาคมฯ มีทรัพย์สินมูลค่าสูงมาก และยังมียอดเงินบริจาคเป็นจำนวนเงินที่สูงมากด้วย จึงต้องมีข้อบังคับของสมาคมฯ กำหนดให้หมุนเวียนตำแหน่งบริหารสมาคมฯ เพื่อให้สมาชิกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารสมาคมฯ เพื่อให้เกิดความสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาล

นอกจากนี้ ยังปรากฏว่าในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เกิดความขัดแย้งของชาวฮินดูที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย มีการแบ่งพวกแบ่งกลุ่มกัน เพื่อแย่งชิงอำนาจสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวฮินดู ซึ่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสมาชิกของสมาคมฯ และนายทะเบียนท้องถิ่นได้ โดยพบว่ามีการทำหนังสือร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งความขัดแย้งในสมาคมฯ ก่อให้เกิดการแตกสามัคคีของสมาชิกสมาคมฯ ทั้งยังสร้างความสับสนต่อประชาชนผู้นับถือศาสนาฮินดู ซึ่งมาประกอบศาสนกิจในสมาคมฯ เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ จึงเป็นเหตุให้กรรมการทยอยลาออก และจำนวนสมาชิกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม จึงขอให้นายทะเบียนสมาคมในกรุงเทพมหานคร พิจารณามีคำสั่งให้เลิกสมาคมฮินดูธรรมสภา (วัดวิษณุ) ขอให้คุ้มครองชั่วคราว โดยมีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารชุดที่หมดวาระไปแล้ว หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที มอบหมายให้กรมการปกครอง และกรมศาสนา ร่วมกันแต่งตั้งคณะบุคคลชาวฮินดูสัญชาติไทย จากสมาคมฮินดู สมาคมอื่นๆ ตามที่เห็นสมควร เข้ามาบริหารกิจการของสมาคมฮินดูธรรมสภา ในระหว่างพิจารณาออกคำสั่งให้เลิกสมาคมฮินดูธรรมสภาโดยชอบ ของ​และมีคำสั่งให้ดำเนินการตามข้อบังคับของสมาคมฮินดูธรรมสภาแห่งประเทศไทยโดยเคร่งครัด


ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 101 ประกอบมาตรา 102 (1)-(5) มาตรา 103 มาตรา 104 และขอให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ วิธิปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษานิติรัฐ และความสงบเรียบร้อย รวมถึงศีลธรรมอันดีของประชาชนอีกด้วย

ภายหลังการยื่นหนังสือร้องเรียน ทางตัวแทนกรมการปกครองที่รับหนังสือ เปิดเผยว่า เตรียมนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเสนอให้อธิบดีกรมการปกครอง ตรวจสอบและพิจารณาต่อไป. -319 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ