กทม. 20 ส.ค.-สธ. ตั้งเป้าสิ้น ส.ค.นี้ จะสามารถฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดได้ครอบคลุม 70% เพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต อยู่ระหว่างพิจารณาฉีดบูสเตอร์โดสเข็ม 3 คนที่ฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ฉีดวัคซีนและการระบาดของ โควิด-19 ว่า เมื่อวานเป็นการฉีดวัคซีนในปริมาณสูงถึง 651,606 โดส ทำให้ตั้งแต่ 28 ก.พ.64 ถึงปัจจุบัน มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 25,818,666 ล้านโดส ประชากรไทย 8% ได้วัคซีน 2 เข็มแล้ว บุคลากรด่านหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 50% แล้ว แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่ต้องรับการฉีดวัคซีนเพิ่มอีก ผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรัง ก็ได้รับวัคซีนเกือบ 40% แล้ว ชาวต่างชาติในไทยอย่างน้อยได้รับวัคซีนแล้ว 3.5 แสนคน
นพ.โสภณ ระบุจะเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือได้รับการฉีดวัคซีนมายังไม่ถึงสองสัปดาห์ ยังไม่มีภูมิคุ้มกันเพียงพอ
ข้อมูลพบว่าผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ มีเปอร์เซ็นต์ฉีดวัคซีนสูงสุด คือตั้งแต่ต้นกรกฎาคมจาก 32% ถึงต้นสิงหาคมขึ้นเป็น 86% ขณะนี้มีผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ ได้ฉีดวัคซีนแล้วถึง 92% พบว่ามีผลลดป่วยหนักและเสียชีวิต จะเห็นได้ถึงแนวโน้มการเสียชีวิตของผู้สูงอายุ จะค่อนข้างคงที่แล้ว ภาพรวมการเพิ่มความครอบคลุมของวัคซีนในผู้สูงอายุพื้นที่กรุงเทพฯ มีผลทำให้การเสียชีวิตลดลง
กระทรวงสาธารณสุข จึงมีเป้าหมายขยายการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากขึ้น ในผู้สูงอายุกรุงเทพฯ และพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อีก 12 จังหวัด เช่น สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา
ให้ได้รับวัคซีน 70% ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งจะใช้วัคซีนอีกประมาณ 420,000 โดส ก็ขอให้ครอบครัวพาผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีนกันโดยเร็ว
ส่วนกรณีการบูสเตอร์วัคซีนเข็มที่ 3 กำลังอยู่ระหว่างพิจารณา แนวโน้มคือผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย 2 เข็มไปแล้ว จะต้องได้รับการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 แน่นอน.-สำนักข่าวไทย