สาวไอทีร้อง สธ. แพทย์วินิจฉัยพลาดทำแพ้ยารุนแรง หวิดตาบอด

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – สาวไอทีไม่ยอม ร้องกระทรวงสาธารณสุข เอาผิดหมอวินิจฉัยพลาด ทำแพ้ยารุนแรงจนเสียโฉม และหวิดตาบอดทั้ง 2 ข้าง


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย 2 คน เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีนางสาวศศินันท์ อายุ 31 ปี ไปรักษาอาการตาแดงและเจ็บคอ กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง แต่หมอวินิจฉัยโรคผิด ฉีดยาแก้แพ้ให้ถึง 3 ครั้ง จนแพ้ยารุนแรง ต้องส่งตัวเข้าห้องไอซียู นอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 3 เดือน

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนเองมีอาการตาแดง วันรุ่งขึ้น (19 มิ.ย) ซื้อยามากินเอง ทุกครั้งก็จะหาย แต่ครั้งนี้ไม่ดีขึ้น วันที่ 20 มิถุนายน จึงตัดสินใจไปรักษาที่โรงพยาบาลชื่อดังย่านพหลโยธิน ด้วยอาการเจ็บคอและตาแดง หลังเข้ารับการรักษา หมอวินิจฉัยว่าต่อมทอมซิลอักเสบ จึงฉีดยาแก้แพ้ให้ 1 เข็ม แล้วให้กลับบ้าน


หลังกลับบ้านไม่นานเริ่มแน่นหน้าอก ผื่นขึ้นเต็มตัว ตาเริ่มมองไม่ชัด ปากบวม โรงพยาบาลจึงนัดให้มาพบแพทย์เฉพาะทางวันที่ 21 มิถุนายน โดยแพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยโรคว่าอาจเป็นโรคอีสุกอีใส ฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมเพิ่มให้อีก และให้แอดมิดที่โรงพยาบาล หลังฉีดยาชนิดเดิมไม่นาน อาการเริ่มหนักขึ้น ผื่นแดงเริ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม ตาซ้ายมองไม่เห็น ตาขวามองเห็นเพียง 50% จึงรีบแจ้งพยาบาล

ต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน หมอรีบนำตัวเข้าห้องไอซียู และฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมให้อีกเป็นเข็มที่ 3 ทำให้รู้สึกมึน เบลอ ร่างกายเริ่มชา ไม่มีความรู้สึก นอนอยู่ในห้องไอซียู 7 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ 2 และโรงพยาบาลที่สองวินิจฉัยว่าตนเป็นโรค “สตีเวนส์จอห์นสัน ระดับ10” รักษาตัวโรงพยาบาลที่ 2 อีก 1 เดือน กับอีก 15 วัน อาการผื่นแดงจึงหยุดลุกลาม แต่ตายังมองไม่ค่อยเห็นเหมือนเดิม

ผู้เสียหายเล่าว่า ตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากมาก ตาขวามองเห็นเพียง 50% ส่วนตาซ้ายมองเป็นฝ้าสีขาว จะเดินไปไหนตามลำพังไม่ได้ ต้องมีคนจูงมือตลอด ตนเสียใจมากที่ต้องมาป่วยแบบนี้ โดยก่อนป่วยตนมีชีวิตสดใส เป็นพนักงานไอที กำลังจะเปิดช่องขายของออนไลน์ แต่ความฝันต้องพังทลาย เพราะหมอวินิจฉัยโรคผิด สิ่งที่กังวลมากที่สุดตอนนี้คือ อยากให้โรงพยาบาลแรกที่รักษาช่วยรักษาตาให้กลับมามองเห็น เพราะที่ผ่านมาการรักษาทุกครั้งใช้บัตรประกันสังคมรักษา เชื่อว่าอาจไม่ได้ยาที่ดี อยากให้โรงพยาบาลรับผิดชอบด้วยการจัดยาดีๆ ที่อยู่นอกประกันสังคมให้ อยากเรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งเรื่องต้องถูกให้ออกจากงาน การเสียโฉม ให้โรงพยาบาลรับผิดชอบตรงนี้


ด้านนายกองตรี ธนกฤต ระบุว่า ย้อนกลับไปดูตั้งแต่เริ่มแรกของการรักษาว่าเป็นไปอย่างถูกต้องไหม ปกติทางโรงพยาบาลต้องมีการตรวจสอบประวัติคนไข้เสมอ การแพ้ยาเป็นเรื่องปกติ บางคนรู้ว่าแพ้ยาอะไร แต่บางคนไม่รู้ ส่วนกรณีที่หมอวินิจฉัยต้องดูว่าสภาพตัวคนไข้มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นโรคนั้นหรือเปล่า ยังไม่ฟันธงว่าการรักษาผิดพลาดหรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะส่งผู้เสียหายทั้ง 2 คน ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ในการตรวจจอประสาทตา ตรวจสอบว่าเสียหายมากแค่ไหน สามารถกู้คืนได้หรือไม่ ทั้งนี้ ต้องดูในเวชระเบียนว่ามีการลงการรักษาไว้ไหม ถ้าไม่มีการลงบันทึกก็จะมีการดำเนินคดีต่อไป

สำหรับอาการลักษณะนี้เป็นกลุ่มอาการ Stevens-Johnson Syndrome (สตีเวนส์จอห์นสัน ซิมโดรม) สาเหตุที่อาจทำให้เกิดกลุ่มอาการนี้มี 3 ปัจจัย คือ จากยาที่รับประทาน ซึ่งไม่เจาะจงว่าเป็นยาตัวไหน เพราะบางคนกินแล้วแพ้ บางคนไม่แพ้ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับยาทุกกลุ่ม, จากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และอาจเกิดจากมะเร็ง ซึ่งต้องมีการสืบค้นก่อนว่าเกิดจากอะไร กรณีแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เกิดจากภูมิคุ้มกันที่ไว การติดเชื้อบางอย่างก็เกิดเป็นโรคแบบนี้ได้

จากการตรวจสอบตัวคนไข้เบื้องต้น ตาซ้ายมีรอยผื่นตรงกระจกตา ทำให้การมองเห็นลดลง จอประสาทตาควรจะได้รับการตรวจเฉพาะทางว่ายังดีอยู่ไหม ต่อจากนี้ได้ส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อทำการรักษาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี