รพ.พระมงกุฎเกล้า 20 ส.ค. – นายกฯ ตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วยรวม โควิด-19 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเสริม 100 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ขออย่าท้อ พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแห่งใจ สมุทรปราการ รับผู้ป่วยระดับเขียว-เหลืองอ่อน 450 เตียง จากความร่วมมือรัฐ-เอกชน ย้ำฉีดวัคซีนก็ขอให้ทุกคนระวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมหอผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งได้มีการขยายพื้นที่ เพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยได้ใช้พื้นที่ลานจอดรถชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ใช้เป็นพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ขณะนี้กำลังต่อเติม และปรับพื้นที่เปิด ward covid 100 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยประชาชนทั่วไป ซึ่งก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้กำลังใจบุคลากรกรทางการแพทย์ และขอทุกคนอย่าท้อ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ ซอยวัดคลองปลัดเปรียง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังสมุทรปราการ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ประกอบด้วย โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ บริษัทอีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด บริษัททีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล จำกัด มูลนิธิธนินท์ เทวี เจียรวนนท์ มูลนิธิอริยวรารมย์ และมูลนิธิพุทธรักษา โดยแต่ละภาคีเครือข่ายได้ร่วมมือกันทั้งด้านการก่อสร้าง ระบบปรับอากาศ การบำบัดน้ำเสีย การจัดส่งทีมแพทย์และพยาบาล และสภาพแวดล้อมโดยรวม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยขั้นสูงสุดต่อผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
โดยนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและนพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจรายงานการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ ว่า โครงการโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ ก่อตั้งขึ้นเพื่อรับผู้ป่วยระดับสีเขียวและสีเหลืองอ่อน แบ่งเป็นผู้ป่วยหญิง 225 เตียง ผู้ป่วยชาย 225 เตียง รวม 450 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาประมาณ 400 คน เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 9 สิงหาคม เป็นต้นมา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาในวันนี้(20 ส.ค.) เพื่อให้กำลังใจทุกคนที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งช่วงเช้าได้ไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลภาครัฐเช่นกัน ถือเป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม นอกจากการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามแล้ว รัฐบาลและศบค. ยังมีระบบการดูแลที่บ้านและในชุมชน HI และ CI ด้วย
“ขณะเดียวกันพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้สามารถรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก คาดว่าภายในปีหน้าจะเกิดผลเป็นรูปธรรม ไทยจะมีวัคซีนเป็นของตัวเอง ขอฝากความห่วงใยถึงทุกคนว่าแม้จะฉีดวัคซีนแล้วขอให้ทุกคนระมัดระวัง ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมใส่หน้ากากตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” นายกรัฐมนตรี กล่าว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองและลงทะเบียนผู้ป่วยและรับชมการสาธิตการทำงานของหุ่นยนต์ปิ่นโต และแอปพลิเคชันไข่ต้ม ฮอสพิทอล ซึ่งใช้สำหรับในการส่งสิ่งของ ยา อาหารและเวชภัณภ์ให้ผู้ป่วย พร้อมตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจผ่าน Command Center โดยสอบถามอาการและให้กำลังใจผู้ป่วยผ่านระบบ Telehealth โดยผู้ป่วยแจ้งว่าได้เข้าสู่ระบบการรักษาเมื่อวาน(19 ส.ค.) และอาการดีขึ้นแล้ว ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาให้กำลังใจ.-สำนักข่าวไทย.