อิสตันบูล 14 ส.ค. – จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมอย่างรุนแรงและโคลนถล่มในพื้นที่ชายฝั่งของตุรกีขยับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 รายแล้ว
สำนักงานจัดการภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินของตุรกี หรือ เอเอฟเอดี กล่าววันนี้ว่า ในที่ตกอย่างหนักในจังหวัดชายฝั่งทะเลดำ ได้แก่ บาร์ติน คาสตาโมนู และซิน็อบ เมื่อวันพุธ ทำให้เกิดน้ำท่วมที่พัดทำลายบ้านเรือนหลายหลัก ทำให้สะพานอย่างน้อย 5 แห่งถูกตัดขาด รถยนต์โดนกระแสน้ำท่วมพัดพาไปและทำให้ถนนหลายสายใช้สัญจรไม่ได้ เอเอฟเอดี กล่าวด้วยว่า มีผู้เสียชีวิต 34 ราย ในจังหวัดตาสตาโมนูและอีก 6 รายในจังหวัดซิน็อบ และที่จังหวัดนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและยังรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 9 คน ส่วนที่จังหวัดบาร์ติน มีผู้สูญหาย 1 ราย แต่ประชาชนบางส่วนแจ้งข่าวผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีผู้สูญหายหลายร้อยคน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ประชาชนราว 2,250 คน อพยพออกจากบ้านเรือนไปยังสถานที่ปลอดภัย บางคนได้รับความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ขณะรอคอยความช่วยเหลืออยู่บนหลังคาบ้านและมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมักตจ้องไปพักอาศัยเป็นการชั่วคราวในหอพักนักเรียน นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาวะอากาศกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสภาพอากาศที่ผันผวนรุนแรง แต่ผู้เชี่ยวชาญในตุรกีกล่าวว่า การขัดขวางเส้นทางไหลของน้ำในแม่น้ำและการก่อสร้างที่ไม่เหมาะสมเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย