สธ.10 ส.ค.-กรมควบคุมโรค แจงวันนี้จัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ลงพื้นที่ 13 จังหวัด ฉีด กลุ่มเสี่ยง สูงวัย 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ เพื่อเป็นวัคซีนเข็มแรก แจงไม่กั๊กวัคซีน ส่งให้บุคคลด่านหน้า แต่ทยอยจัดส่ง เพื่อควบคุมคุณภาพวัคซีน ย้ำวัคซีน 1 ขวดต้องผสมน้ำเกลือ 1.8 ซีซี ตามที่ทางบริษัทแนะนำ และทำเหมือนกันทั่วโลก
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ว่า ได้มีการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.เร็วกว่ากำหนดเดิม 5 ส.ค.และเริ่มฉีดวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (เข็ม3) และกลุ่มเสี่ยงเข็มที่ 1 สำหรับกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้เป้าหมายการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ลงชื่อไว้ โดยจะมีการฉีดตามหลักเกณฑ์ และข้อพิจารณา และหากบุคลากรใดที่ยังไม่ได้รับวัคซีนในล็อตนี้ให้ลงชื่อแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือภาคเอกชน ให้แจ้งไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) เพื่อแจ้งกลับมายังกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันวัคซีนไม่มีการสูญหาย ทุกคนจะได้รับตามที่ลงชื่อไว้ และยังมีวัคซีนที่ไฟเซอร์ ที่จัดซื้ออีก 20 ล้านโดสที่จะมาภายหลัง พร้อมชี้แจงกรณีจังหวัด ขอนแก่น หรือรพ.สนาม ที่อยู่ในความดูแล ของ มธ.ร้องได้รับวัคซีน ไฟเซอร์ ไม่เพียงพอนั้น ได้มีการจัดส่งให้แล้วตามที่มีการระบุกันไว้ และส่งเป็นรอบ ไม่ใช่ครั้งเดียว โดยการจัดส่ง หากมีการขอมาต่ำกว่า ร้อยละ 50 จะมีการจัดส่งไปร้อยละ50 เพื่อกันไว้เพิ่มเติม ส่วนพื้นที่ไหน ขอวัคซีนมา ร้อยละ 75 ก็จะจัดส่งให้ร้อยละ75 ตามที่ขอ แต่หากพื้นที่ไหนขอมาเกิน กว่า ร้อยละ75 ก็จะจัดส่งให้ร้อยละ 75 ทั้งนี้เพื่อการบริหารจัดการที่ต้องจัดเก็บให้ดี ในอุณหภูมอ ลบ 70 องศาเซลเซียส ฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปหรือเสียกำลังใจ
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า สำหรับวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการจัดส่งวัคซีนไปใน รพ.ต่างในพื้นที่ จังหวัด เข้มงวดสูงสุด หรือสีแดงเข้ม 13 จังหวัด ได้แก่ กทม.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี นราธิวาส ปัตตานี สงขลา ยะลา อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพื่อไปฉีดให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ เกิน 12 สัปดาห์ เป็นเข็มที่ 1 จากนั้นมีการนัดหมายอีก 3 สัปดาห์เพื่อฉีดในเข็ม 2 ต่อไป โดยขณะนี้ประเทศไทย มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 21 ล้านโดส เป็นวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 16 ล้านโดส/คน เข็มที่ 2 จำนวน 4.5 ล้านคน และ เป็นเข็ม 3 จำนวน 268,000 คน หากแบ่งเป็นชนิดของวัคซีน ไฟเซอร์ มีการฉีดเป็นเข็ม 1 จำนวน 33,219 โดส เป็นเข็มที่ 2 จำนวน 13,622 โดส และเป็นเข็ม 3 จำนวน 82,993 โดส ,วัคซีนซิโนแวค ฉีดเป็นเข็ม 1 จำนวน 6,830,715 โดส/ราย เป็นเข็มที่ 2 จำนวน 3,438,420 โดส/ราย ,วัคซีนแอสตราฯ ฉีดเป็นเข็ม 1 จำนวน 8,331,186 โดส/ราย เป็นเข็มที่ 2 จำนวน 714,202 โดส/ราย และเป็นเข็ม 3 จำนวน 185,029 โดส/ราย , ซิโนฟาร์ม ฉีดเป็นเข็ม 1 จำนวน 1,141,623 โดส/ราย เป็น เข็มที่ 2 จำนวน 400,101โดส/ราย ซึ่งหากจำแนกรวมวัคซีนที่มีการฉีดในประเทศไทยตั้งแต่ วันที่ 28 ก.พ- 9 ส.ค.2564 ซิโนแวค ฉีดไปแล้ว 10,269,135 โดส/ราย แอสตร้า ฉีดไปแล้ว 9,230,417 โดส/ราย ซิโนฟาร์ม 1,541,724 โดส/ราย และไฟเซอร์ 129,834 โดส/ราย
นพ.เฉวตสรร ยังกล่าวย้ำว่า แนวทางการผสมวัคซีนไฟเซอร์เป็นไปตามสูตร ทำเหมือนกันทุกประเทศ ตามที่บริษัทแนะนำ เนื่องจาก วัคซีนเป็น m-RNA มีความเข้มข้นต้องผสมน้ำเกลือ 1.8 ซีซี จากนั้นกลับขวดไปมา 10 รอบเป็นรายละเอียดที่ทางบริษัทวัคซีนแจ้งมา โดยเมื่อไหร่ที่ฉีด จึงเอาออกมาจากอุณหภูมิห้อง เมื่อผสมวัคซีนแล้ว ต้องฉีดให้หมดภายใน 6 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย
