กรม สบส. จัดทีม อสม.ชวนคนไทยร่วมกำจัดโรคโปลิโอ

4 ต.ค. – กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) มอบนโยบายถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ ร่วมจัดทีมลงพื้นที่เชิญชวนประชาชนให้นำบุตร-หลาน อายุครบ 2 เดือน ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ มารับวัคซีนที่หน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐ และเอกชนใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย กำจัดโรคโปลิโอให้หมดไปจากประเทศ


นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า โรคโปลิโอ (Poliomyelitis) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการได้รับเชื้อไวรัสโปลิโอเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดความพิการ และบางครั้งอาจทำให้ถึงเสียชีวิต แม้ประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยด้วยโรคโปลิโอ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 แต่ก็ยังจะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ด้วยอาจจะมีการนำเชื้อโปลิโอมาจากผู้เดินทางจากนอกประเทศ ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงป่วยด้วยโรคโปลิโอส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยเด็ก และหนุ่มสาว แต่หากผู้สูงอายุป่วย ก็มักจะมีอาการรุนแรงและเป็นอัมพาตได้มากกว่าผู้ป่วยในวัยอื่นๆ ซึ่งความรุนแรงขึ้นอยู่กับเชื้อโรค และอายุของผู้รับเชื้ออย่างในเด็กอายุน้อยก็จะมีความรุนแรงมากกว่าเด็กโต ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสีย และกำจัดโรคโปลิโอให้หมดไปจากประเทศ การให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอในเด็กเล็กถือเป็นเรื่องสำคัญ กรม สบส.จึงได้มีนโยบายไปถึง อสม.ทั่วประเทศ ให้จัดทีมลงพื้นที่เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนนำบุตร-หลาน อายุครบ 2 เดือน ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ มารับการฉีดวัคซีนที่หน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐ และเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหน่วยบริการสาธารณสุขจะให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอในเด็กตามสูตร “2 IPV + 3 OPV” หรือฉีด 2 เข็ม หยอด 3 ครั้ง โดยการรับวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) จำนวน 2 เข็ม เมื่ออายุครบ 2 เดือน และ 4 เดือน หลังจากนั้นให้มารับวัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV) จำนวน 3 ครั้ง เมื่ออายุครบ 6 เดือน, 1 ปี 6 เดือน และ 4 ปี พร้อมเฝ้าระวังติดตามอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังเด็กรับวัคซีน

ด้าน นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคโปลิโอ สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนผ่านทางการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโปลิโอ จะมีอาการไข้ต่ำ เจ็บคอ ระบบประสาทถูกทำลาย การหายใจล้มเหลว แขนขาลีบ เกิดการอักเสบของไขสันหลังเกิดการอัมพาตของกล้ามเนื้อแขนขา ในรายที่รุนแรงอาจจะทำให้เกิดความพิการตลอดชีวิต หรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยปัจจุบันยังไม่มียารักษาแต่ป้องกันการติดเชื้อได้ด้วยการหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด และล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ ซึ่งการป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ การรับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอตามกำหนดให้ครบ 5 ครั้ง. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน กระทบ​ 53 จังหวัด​

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน​ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก มีผลกระทบ​ 53 จังหวัด​ ระหว่าง​ 29​ มี.ค.-1 เม.ย.68​

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง