รถไฟฯ มั่นใจดำเนินการกรณีที่ดินเขากระโดง อย่างโปร่งใส

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – การรถไฟฯ แจงละเอียดยิบ ขั้นตอนการยื่นหนังสือให้กรมที่ดิน ดำเนินการกับโฉนดที่ออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในพื้นที่บริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยันดำเนินการอย่างโปร่งใส พร้อมโชว์เอกสาร “ศักดิ์สยาม” สั่งดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (29 ก.ค.64 ) ภายหลังมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการส่งเรื่องให้กรมที่ดินพิจารณาดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในพื้นที่บริเวณเขากระโดง โดยระบุอ้างถึงหนังสือของการรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ รฟ1/1911/2564 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ถึงอธิบดีกรมที่ดิน  เรื่องขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกทับที่ดินของการรถไฟฯ  ในพื้นที่บริเวณเขากระโดง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นั้น เพื่อเป็นการให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมและเข้าใจในสาระสำคัญที่ถูกต้องมากขึ้น การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

1. เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาและการหาข้อยุติกรณีที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ประชาชนกว่า 900 ราย ในที่ดินที่เชื่อว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย


ปัญหาที่เกี่ยวกับสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงนั้นมีมาอย่างยาวนาน โดยการดำเนินการของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นขั้นตอนของการเสาะหาข้อเท็จจริงต่างๆ และการต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์สิทธิในที่ดินรายแปลงในชั้นศาลมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2561 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 พิพากษาให้การรถไฟแห่งประเทศไทยชนะคดีในการพิสูจน์กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงหนึ่ง โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งในคำพิพากษาของศาลฎีการะบุโดยสรุปว่า “ศาลฎีกาเชื่อข้อเท็จจริงตามแผนที่ที่นำเสนอโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าพื้นที่ทางแยกบริเวณเขากระโดง ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ตำบลเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กิโลเมตรที่ 375-650 จำนวนเนื้อที่ประมาณ 5,083 ไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย”

จากการสำรวจที่ดินเนื้อที่จำนวนประมาณ 5,083 ไร่ดังกล่าว ล่าสุดเมื่อต้นปี 2564 พบว่ามีผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์  ที่ออกโดยหน่วยงานราชการประมาณ 900 ราย แบ่งเป็น โฉนดที่ดิน จำนวน 700 ราย ที่มีการครอบครอง (ท.ค.) จำนวน19 ราย  น.ส.3ก. จำนวน  7 ราย หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) จำนวน 1 ราย ทางสาธารณประโยชน์จำนวน 53 แปลง และอื่นๆที่ไม่ปรากฎเลขที่ดินในระวางแผนที่อีกจำนวน 129 แปลง  โดยการสำรวจดังกล่าว การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการโดยไม่ได้มีการเจาะจงสำรวจที่ดินของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการในทุกขั้นตอนบนข้อสันนิษฐานว่า “ประชาชนผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่ออกโดยทางราชการและอาศัยอยู่ในที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว เป็นผู้อาศัยในที่ดินโดยสุจริต” ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่ประสงค์จะดำเนินการใดๆ ต่อประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด


2. การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความจำเป็นในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อหาข้อยุติในกรณีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบนที่ดินบริเวณเขากระโดง เมื่อปรากฏต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์จำนวนกว่า 900 แปลงในที่ดินที่ศาลฎีการะบุว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอให้กรมที่ดินซึ่งเป็นหน่วยราชการที่มีอำนาจหน้าที่ในการออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้ราษฎรและให้บริการ  จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพิจารณาทบทวนการใช้อำนาจดังกล่าว

โดยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ขอให้กรมที่ดินดำเนินการให้เป็นตามกระบวนการตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 61 วรรคหนึ่ง ซึ่งระบุว่า “เมื่อความปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือได้จดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หรือจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ใด โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย มีอำนาจหน้าที่สั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้

ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยยืนยันที่จะดำเนินการในเรื่องนี้จนถึงที่สุด และหากในอนาคตจะปรากฏผลการวินิจฉัยอันถึงที่สุดเป็นประการใด การรถไฟแห่งประเทศไทยก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าวอย่างเคร่งครัดต่อไป

3. การรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกันดำเนินการในเรื่องนี้โดยยึดหลักการตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล โดยทางกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงปฏิบัติด้วยความเท่าเทียม เสมอภาค โปร่งใส บนหลักการที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนควบคู่กับการดูแลพิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมดของการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมนั้น  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการในเรื่องนี้ โดยย้ำให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการของกรมที่ดินในการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์  ที่ออกในที่ดินที่เชื่อว่า เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยให้ตรวจสอบและดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”