ลอนดอน 14 ก.ค. – นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน นครหลวงของอังกฤษ กล่าววันนี้ว่า การสวมหน้ากากอนามัยยังเป็นข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติเมื่อใช้เครือข่ายระบบขนส่งสาธารณะในกรุงลอนดอนหลังวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ มีแผนที่จะยกเลิกข้อกำหนดเกือบทั้งหมดที่ใช้ในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
รัฐบาลของนายจอห์นสัน ซึ่งเป็นรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยม ประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเกือบทั้งหมด แต่ประชาชนได้รับคำแนะนำ แต่ไม่ได้บังคับด้วยกฎหมาย ให้สวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในร่ม หรือในอาคารในพื้นที่ปิดทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป แต่ในกรุงลอนดอน บริษัททรานสปอร์ตฟอร์ลอนดอน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่นายข่าน จากพรรคแรงงาน เป็นประธาน จะยังคงกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยเวลาใช้รถประจำทาง รถไฟและส่วนอื่นๆ ของระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อควบคุมมิให้มีการระบาดของโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่รัฐบาลอังกฤษ อ้างว่าแผนการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหนักหรือเสียชีวิต แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังคงเรียกร้องให้ประชาชนยังคงระมัดระวังท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายวันจะพุ่งสูงถึง 100,000 คน นายข่านกล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาจะไม่ยอมนิ่งดูดายและปล่อยให้ชาวลอนดอนมีความเสี่ยงและกระทบกับการฟื้นตัวของกรุงลอนดอน และหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เขาจึงตัดสินใจให้ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงลอนดอนยังคงใช้มาตรการกำหนดให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการต่อไป แม้ว่าข้อกำหนดของรัฐบาลจะเปลี่ยนไปก็ตาม.-สำนักข่าวไทย