กทม. 14 ก.ค.-พัชรินทร์ พร้อม ส.ส.หญิง พปชร. ดันร่างกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำคดีอุกฉกรรจ์ เข้าสภาฯ ครอบคลุมคดีข่มขืน กระทำผิดกับเด็ก เรียกค่าไถ่
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าหลังจากที่ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อน “Smart Safety Zone” เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมและแหล่งมั่วสุมอาชญากรแล้วนั้น ล่าสุดได้ร่วมกับเพื่อน ส.ส.พลังประชารัฐ โดยเฉพาะ ส.ส.หญิง ขอเดินหน้าต่อในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เสนอร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. … ต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยจะครอบคลุมถึงผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์บางประเภทที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง เช่น การข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำความผิดทางเพศกับเด็ก การทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การทำร้ายร่างกายสาหัส การนำตัวบุคคลไปเรียกค่าไถ่ และวางเพลิงเป็นเหตุให้คนตาย เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน นโยบายความปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่ตนพยายามผลักดันมาโดยตลอด
น.ส.พัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะนำมาใช้กับผู้กระทำผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงที่กำลังจะพ้นโทษ หากกระบวนการพิจารณาพบว่า บุคคลดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะกระทำผิดซ้ำอีก ก็จะมีมาตรการควบคุมต่างๆ ภายหลังจากพ้นโทษไปแล้ว เช่น ให้คุมประพฤติ (ไม่เกิน 15 ปี), ห้ามออกนอกเขตพื้นที่ที่กำหนด, หากย้ายที่ทำงานต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงาน เป็นต้น รวมถึงสามารถใช้มาตรการทางการแพทย์ในการแก้ไขฟื้นฟูได้หากได้รับความยินยอม ซึ่งในระหว่างการควบคุมภายหลังพ้นโทษนั้น หากพบว่ามีพฤติการณ์ที่ใกล้จะกระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงอีกและไม่มีมาตรการอื่นที่ยับยั้งได้ ก็สามารถขอคุมขังฉุกเฉินได้
“ที่ผ่านมาแม้ว่าผู้กระทำผิดที่ได้รับการปล่อยตัวกลับสู่สังคมแล้ว จะมีการติดตามจากเจ้าพนักงานตำรวจหรือฝ่ายปกครอง แต่ก็ไม่มีสภาพบังคับเป็นกฎหมาย ทำให้ไม่เกิดประสิทธิผลในการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ โดยเฉพาะด้านการใช้ความรุนแรงและข่มขืนกระทำชำเรา จึงได้ผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเพื่อผู้หญิงเท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน” น.ส.พัชรินทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย