กรมชลฯ ยันไม่ได้นำน้ำไปใช้เขตอุตสาหกรรมระยอง

กรุงเทพฯ  27 ก.พ. – ตามที่มีการนำเสนอข่าวฝายบ้านท่าระม้า เมืองจันทบุรี แห้งขอดส่งผลกระทบต่อประชาชนด้านท้ายฝายต้องประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากชลประทานยังไม่ปล่อยน้ำลงมา ทำให้เกษตรกรชาวสวนได้รับผลกระทบอย่างมากและมีการนำน้ำไปใช้ในทางอุตสาหกรรมที่จังหวัดระยองนั้น  นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ฝายยางบ้านท่าระม้าเป็นฝายที่กรมชลประทานสร้างไว้ เพื่อทดน้ำที่ส่งมาจากเขื่อนคิรีธารหรือเขื่อนสะพานหินอยู่ในความดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน


ทั้งนี้  ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 61.734  ล้านลูกบาศก์เมตร พพ.มีแผนการระบายน้ำช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ประมาณวันละ 168,674 ลูกบาศก์เมตร จนถึงปัจจุบันเดือนกุมภาพันธ์มีการระบายน้ำวันละ 287,280 ลูกบาศก์เมตร โดยจะต้องส่งน้ำแบ่งไปให้ในเขตอำเภอขลุงบางส่วนด้วย ทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาถึงฝายยางท่าระม้ามีปริมาณไม่เพียงพอต่อการใช้น้ำในเขตอำเภอมะขาม และอำเภอเมืองจันทบุรี เนื่องจากความต้องการใช้น้ำสูงกว่าปริมาณน้ำที่เขื่อนคิรีธารปล่อยลงมา ทำให้ปริมาณน้ำที่ลงมาเติมไม่ทัน จำเป็นต้องปิด–เปิดประตูระบายน้ำของฝายยางท่าระม้าเป็นบางช่วง เพื่อทดน้ำให้ชาวสวนด้านบนสูบน้ำไปใช้ก่อน สลับกับชาวสวนด้านล่าง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ระบายออกมาจากเขื่อนคิรีธารมีปริมาณค่อนข้างน้อย ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่ด้านท้ายฝายยางท่าระม้า

อย่างไรก็ตาม เดือนมีนาคม 2560 เขื่อนคิรีธารจะปรับเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้น  โดยจะมีการระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนในลุ่มน้ำจันทบุรี  ซึ่งจะทำให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำลดลง ประกอบกับปัจจุบันมีฝนตกในเขตจังหวัดจันทบุรี ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาประมาณ 359.50 มิลลิเมตร ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งลงไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งโครงการชลประทานจันทบุรีจะประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี และ พพ.แก้ไขปัญหาให้ชาวสวนผลไม้ในเขตลุ่มน้ำจันทบุรีต่อไป


สำหรับกรณีที่ได้มีการกล่าวอ้างว่ามีการสูบน้ำจากจังหวัดจันทบุรีไปจังหวัดระยอง เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เนื่องจากจังหวัดระยองมีปริมาณน้ำมากเพียงพอ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสูบน้ำไปใช้ในเขตจังหวัดระยอง ประกอบกับสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ในเขตลุ่มน้ำวังโตนด เป็นคนละลุ่มน้ำที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ จึงไม่มีผลกระทบจากการสูบน้ำตามที่เกษตรกรกล่าวอ้าง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว